อาหารยุคโลกาภิวัตน์



          เพราะโลกหมุนเวียนเปลี่ยนไป โลกยุคใหม่ที่เรียกว่า "โลกาภิวัตน์" ก็เข้ามาแทนที่  อาหารการกินก็มิอาจหลุดจากวงจรนี้ไปได้  อาหารในยุคโลกาภิวัตน์จึงเป็นอาหารสำเร็จรูปในรูปแบบต่างๆ ที่มีการแข่งขันทางด้านการผลิต มีการใช้เครื่องจักรที่ทันสมัย ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ มีการชั่ง ตวง วัดที่ได้มาตรฐาน อาหารที่ออกมาทุก Lot จึงได้รสชาติเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีคำว่า ฝีมือตก ทุกคนทุกครัวเรือนต่างก็ได้รับประทานอาหารทั้งคุณภาพและรสชาติที่เหมือนกัน

          เสน่ห์ปลายจวัก หรือ เคล็ดลับในการปรุงอาหารของคุณแม่บ้าน กำลังจะเลือนหายไปพร้อมๆ กับอาหารยุคใหม่เข้ามาแทนที่ เพราะไม่ว่าคุณอยากจะทำแกงขียวหวาน แกงป่า ผัดเผ็ด ต้มยำ แกงมัสมั่น หรืออีกร้อยแปดชนิด ก็เพียงแต่ซื้อเครื่องแกงสำเร็จรูป อ่านฉลากข้างซองแล้วทำตามคำแนะนำที่บริษัทเขียนไว้ ก็จะได้อาหารตามที่ต้องการ  ดังนั้นไม่ว่าคุณจะถูกเชื้อเชิญไปรับประทานอาหารที่บ้านใคร ก็จะได้รสชาติอันเป็นหนึ่งเดียวนี้เช่นกัน ถ้าบ้านนั้นใช้อาหารที่ฉีกซองหรือแกะกล่องมาต้อนรับ

          ครก-สาก เป็นวัสดุคู่ครัวมาแต่อดีตก็ค่อยๆ หมดบทบาทลงไปเช่นกัน จากนี้ไปเราไม่ต้องหาพริกแห้ง ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม ผิวมะกรูด มาล้าง แช่น้ำ ปอก หั่น และเสียเวลาโขลกอีกแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างมีบริการอย่างพร้อมสรรพ เพียงแต่ขับรถไปห้างสรรพสินค้าสักแห่ง ก็จะได้ทุกอย่างตามปรารถนา

          การเปลี่ยนแปลงของโลก เป็นแรงผลักที่ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งได้  แต่สิ่งที่บรรพบุรุษเคยปฎิบัติสืบต่อกันมากำลังจะขาดผู้สืบสานต่อไป เสน่ห์ปลายจวักจะกลายเป็นอดีต วิถีทางการดำเนินชีวิตหรือวัฒนธรรมประจำชาติที่ดีงามกำลังด้อยค่าลงไปในผู้คนยุคใหม่นี้ เราไม่เสียดายกันหรอกหรือ ความสำเร็จรูปที่รวดเร็วแต่ซ้ำซากทำให้เกิดความน่าเบื่อได้ง่าย ชีวิตยุคใหม่จึงไร้รสชาติ ขาดศิลปะ และความมีชีวิตชีวาลงไปมากทีเดียว   "แม่ศรีเรือน" ยังเป็นคำกล่าวขวัญถึงหญิงไทยที่ให้ทั้งเสน่ห์ ความอ่อนหวานน่ารัก และรวมไปถึงการเอาใจใส่ดูแลครอบครัวในเรื่องการกินอยู่ที่เป็นเอกลักษณ์ของครอบครัวตนเองที่ไม่ควรเลือนหาย

 

แกงส้มญวน

เครื่องปรุง

แกงส้มญวน
ปลาช่อน หนัก 500 กรัม 1      ตัว
สับปะรดหั่นหนา 1 ซม. 1      ชิ้น
มะเขือเทศสีดาผ่าครึ่ง 5      ลูก
ขิงหั่นฝอย 1      ช้อนโต๊ะ
มะนาว 1      ชิ้น
ผักชีฝรั่งซอย 2      ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสวนทุบ 5      เม็ด
กระเทียมเจียว 1      ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2      ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/2      ช้อนชา
น้ำปลา 3      ช้อนโต๊ะ
มะขามเปียกคั้นใสๆ 1/4      ถ้วย
น้ำซุป 4      ถ้วย

วิธีทำ

1.  ขอดเกล็ดปลา ผ่าท้องควักไส้ออก ล้างให้สะอาด  หั่นเป็นชิ้นหนาประมาณ 1 ซม. พักไว้
2.  ใส่น้ำซุปลงในหม้อ ตั้งไฟ ใช้ไฟกลาง พอเดือดใส่สับปะรด ขิง มะเขือเทศ ปลาช่อน พอปลาสุก
3.  ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำมะขามเปียก น้ำปลา เกลือ เคี่ยว 2 นาที  ใส่ผักชีฝรั่งพอสุกเขียว บีบมะนาว โรยด้วยกระเทียมเจียว พริกขี้หนูทุบ ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟ

 

หลนปูเค็ม-ผักสด

หลนปูเค็ม-ผักสด เครื่องปรุง

ปูเค็มตัวโตๆ 2      ตัว
เนื้อหมูสับ 2      ช้อนโต๊ะ
หัวกะทิข้นๆ 1      ถ้วย
หอมแดงซอย 3      ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปีบ 2      ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1      ช้อนชา
น้ำมะขามเปียก 2      ช้อนโต๊ะ
ผักสด เช่น กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว กระถินอ่อน

วิธีทำ

1.  ล้างปูเค็มหักปลายแหลมออก ตัดเป็น 4 ชิ้นต่อ 1 ตัว
2.  ใส่หัวกะทิลงในหม้อ ตั้งไฟ ใช้ไฟกลาง  พอเดือดใส่เนื้อหมู คนพอสุก ใส่หอมแดง
3.  ปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือ น้ำมะขามเปียก เคี่ยว 2 นาที  พอข้นใส่ปูเค็มจนปูสุกแดง ตักใส่ถ้วย
4.  จัดผักสดใส่จาน หลนปูเค็มใส่ในถ้วย แต่งด้วยพริกขี้หนูเขียว แดง เสิร์ฟ

 

มะระผัดไข่

มะระผัดไข่ เครื่องปรุง

มะระจีน 1      ลูก
ไข่ 2      ฟอง
ซีอิ๊วขาว 1      ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 1      ช้อนโต๊ะ
น้ำมัน 2      ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1.  ล้างมะระ ผ่ากลางตามยาว ควักไส้ออก หั่นชิ้นบาง
2.  ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่มะระ ผัดพอมะระนุ่ม  ใส่ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ผัดให้เข้ากัน
3.  ต่อยไข่ใส่ ผัดพอไข่แห้ง ปิดไฟ