ถุงพลาสติกใส่อาหาร
เมื่อ 30 กว่าปีก่อน เวลาเราจะซื้อขนมหรืออาหาร แม่ค้าจะห่อด้วยใบตองแล้วใส่ถุงกระดาษที่พับก้นถุงให้ ถุงพลาสติกเป็นสิ่งที่หายาก ฉะนั้นถ้าเผอิญใครได้อาหารที่ใส่ถุงพลาสติกมาจะต้องล้างและเก็บถุงไว้ใช้อีกในคราวต่อไป แม้แต่โอเลี้ยงหรือกาแฟเย็น อาแป๊ะก็จะชงใส่กระป๋องนมเปล่าที่ร้อยเชือกให้หิ้วได้ แต่เดี๋ยวนี้ถุงพลาสติกกลายเป็นความจำเป็นในชีวิตประจำวันของคนเรามากขึ้นทุกที ถุงพลาสติกจึงมีมากมายหลายประเภท ทั้งถุงที่ใช้ใส่อาหาร และถุงที่ใช้ใส่ของ เราจึงควรรู้เรื่องการใช้ถุงพลาสติกกับอาหาร
ถุงพลาสติกหรือโฟมเมื่อถูกใช้แล้วไม่ควรนำกลับมาใช้ใส่อาหารอีก เพราะการล้างอาจไม่สะอาดพอ ทำให้มีเชื้อโรคหรือเศษคราบของอาหารติดอย ู่ โดยเฉพาะภาชนะโฟม หากมีรอยขูดเป็นร่องเล็กๆ ที่มองไม่เห็น เศษอาหารจะเข้าไปฝังตัว เมื่อเรานำกลับมาใส่อาหารอีกครั้งเชื้อโรคก็จะสำแดงฤทธิ์เดชของมัน ทำให้อาหารเกิดการปนเปื้อนและเป็นพิษได้
ส่วนถุงพลาสติกสำหรับใส่ของหรือที่เราเรียกกันว่า "ถุงก๊อบแก๊บ" นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นถุงที่ผ่านการรีไซเคิลมาแล้ว ผลิตมาเพื่อไว้ใส่ของที่ไม่ใช่อาหาร ถุงพวกนี้เมื่อผ่านขบวนการรีไซเคิลแล้วถุงจะไม่ใส จะมีสีขุ่น เพราะความสกปรกจากเศษผงต่างๆ จึงมักใส่สีผสมลงไปเพื่อบดบังสิ่งสกปรกเหล่านั้นและสีที่ใช้ก็เป็นสีคุณภาพต่ำ ซึ่งจะมีพวกโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว แคดเมี่ยม สารหนู ปะปนอยู่มาก ฉะนั้นหากนำไปใส่อาหารก็จะทำให้สารอันตรายที่อยู่ในถุงผสมลงไปในอาหารด้วย และยิ่งเป็นอาหารที่มีกรดด้วยแล้ว จะยิ่งละลายโลหะหนักเหล่านี้ได้ง่าย ฉะนั้นหากเจอพ่อค้าแม่ค้าที่มักง่ายนำอาหารใส่ถุงก๊อบแก๊บใส่อาหารให้คุณ โดยไม่ใส่ถุงพลาสติกสำหรับใส่อาหาร (ถุงใสร้อนหรือเย็นสำหรับใส่อาหาร) ชั้นหนึ่งก่อน ก็อย่าได้เกรงใจและรับเป็นอันขาด เพราะคุณกำลังรับเอาสารพิษที่ถูกหยิบยื่นให้
เครื่องปรุง
| กุ้งแชบ๊วย | 500 | กรัม |
| ยอดมะพร้าว | 500 | กรัม |
| น้ำตาลปีบ | 1 | ช้อนโต๊ะ |
| น้ำปลา | 2-3 | ช้อนโต๊ะ |
| น้ำมะขามเปียก | 3-4 | ช้อนโต๊ะ |
| น้ำ | 3 | ถ้วย |
เครื่องแกง
| พริกแห้งแกะเมล็ดออกแช่น้ำ | 6 | เม็ด |
| หอมแดงซอย | 7 | หัว |
| กระเทียมซอย | 10 | กลีบ |
| กระชายหั่นละเอียด | 1 | ช้อนชา |
| เกลือป่น | 1 | ช้อนชา |
| กะปิ | 1 | ช้อนชา |
โขลกเครื่องแกงทั้งหมดรวมกันให้ละเอียด
วิธีทำ
1. ปอกเปลือกกุ้ง ผ่าหลังชักเส้นดำออก พักไว้
2. หั่นยอดมะพร้าวเป็นชิ้น พักไว้
3. ใส่น้ำลงในหม้อ ตั้งไฟพอเดือด ใส่เครื่องแกง คนให้ทั่ว ใส่ยอดมะพร้าว กุ้ง พอสุก
4. ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาล ชิมรส ให้มีรสเปรี้ยวนำ ยกลง ตักใส่ชาม เสิร์ฟ
เครื่องปรุง
| ปลากระเบนย่างหั่นเป็นชิ้น | 2 | ถ้วย |
| โหระพาเด็ดเป็นใบ | 1/4 | ถ้วย |
| กระชายซอย | 1 | ช้อนโต๊ะ |
| พริกชี้ฟ้าแดงหั่น | 1 | เม็ด |
| ใบมะกรูดหั่นฝอย | 2 | ช้อนชา |
| เม็ดพริกไทยอ่อน | 1/8 | ถ้วย |
| เครื่องแกง | 2 | ช้อนโต๊ะ |
| น้ำตาลปีบ | 1 | ช้อนชา |
| น้ำปลา | 1-2 | ช้อนโต๊ะ |
| น้ำมันพืช | 3 | ช้อนโต๊ะ |
เครื่องแกง
| พริกแห้งเม็ดใหญ่แกะเมล็ดออกแช่น้ำ | 5 | เม็ด |
| พริกขี้หนูแห้ง | 15 | เม็ด |
| พริกขี้หนูสด | 15 | เม็ด |
| ข่าหั่นละเอียด | 1 1/2 | ช้อนชา |
| ตะไคร้หั่นละเอียด | 1 | ต้น |
| รากผักชีหั่นละเอียด | 3 | ราก |
| หอมแดงซอย | 2 | หัว |
| กระเทียมซอย | 4 | หัว |
| ลูกผักชีคั่ว | 1 | ช้อนชา |
| ยี่หร่าคั่ว | 1/2 | ช้อนชา |
| พริกไทยเม็ด | 10 | เม็ด |
| ผิวมะกรูดหั่นละเอียด | 1/2 | ช้อนชา |
| เกลือป่น | 1/2 | ช้อนชา |
โขลกเครื่องแกงทั้งหมดรวมกันให้ละเอียด
วิธีทำ
1. ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่เครื่องแกง ผัดให้หอม ใส่ปลา ผัดพอทั่ว
2. ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ผัดให้เข้ากัน ใส่เม็ดพริกไทยอ่อน กระเพรา พริกชี้ฟ้าแดง ใบมะกรูด โหระพา ผัดพอทั่ว ปิดไฟ ตักใส่จาน แต่งด้วยพริกชี้ฟ้าเหลือง แดง เสิร์ฟ
เครื่องปรุง
| ถั่วงอกเด็ดหาง | 200 | กรัม |
| หมูกรอบ | 200 | กรัม |
| กุยช่าย | 50 | กรัม |
| พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเป็นเส้น | 1 | เม็ด |
| พริกไทยป่น | 1/4 | ช้อนชา |
| กระเทียมเจียว | 1 | ช้อนโต๊ะ |
| น้ำมันหอย | 2 | ช้อนโต๊ะ |
| น้ำซุป | 1/4 | ถ้วย |
| น้ำมันพืช | 3 | ช้อนโต๊ะ |
วิธีทำ
1. ล้างถั่วงอกให้สะอาด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ พักไว้ ล้างกุยช่ายให้สะอาด หั่นเป็นท่อนๆ พักไว้ หั่นหมูกรอบเป็นชิ้นหนาประมาณ 1/2 ซม.
2. ตั้งกระทะใช้ไฟกลางพอร้อน ใส่น้ำมัน ใส่ถั่วงอก กุยช่าย พริกชี้ฟ้าแดง ผัดพอเข้ากัน ใส่น้ำซุป
3. ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย พริกไทย ผัดอย่างรวดเร็ว โดยผัดไฟแรงๆ ให้ทุกอย่างเข้ากัน ถั่วงอกสุกกรอบ ใส่หมูกรอบ กระเทียมเจียว ผัดให้เข้ากัน ตักใส่จาน เสิร์ฟ