เมี่ยงอร่อย
เมี่ยง อาหารว่างไทยโบราณที่ใช้ใบไม้หลายชนิดห่อกินเป็นคำๆ เช่น ใบทองหลาง ใบชะพลู ใบคะน้า ใบผักกาดหอม ใบเมี่ยง เมี่ยงมีมากมายหลายตำรับ ซึ่งเป็นอาหารว่างที่สืบเนื่องต่อกันมาจนถึงปัจจุบันนี้ ดังในกาพย์เห่ชมของว่างของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ว่า...เมี่ยงคำน้ำลายสอ
เมี่ยงสมอเมี่ยงปลาทู
ข้าวคลุกไก่หมู
น้ำพริกกลั้วทั่วโอชา...เมี่ยง เป็นอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำเมี่ยง ใบผักที่ห่อ เนื้อสัตว์ และเครื่องปรุงอื่นๆ เมี่ยงจะอร่อยได้นั้นต้องประกอบกันทุกอย่าง แต่ที่สำคัญอยู่ที่น้ำเมี่ยงที่ต้องปรุงรสให้กลมกล่อม มีความข้นพอดี เมื่อหยอดแล้วต้องเกาะกับเครื่องปรุงได้ดี ผักที่ใช้เป็นใบเมี่ยงต้องสด สะอาด และแก่กำลังดี เช่น ใบทองหลาง ใบชะพลู และผักกาดหอม ควรจะล้างผักให้สะอาด ซับน้ำให้แห้งก่อนที่จะเสิร์ฟ เครื่องปรุงของเนื้อสัตว์และใบผักที่เป็นใบเมี่ยงต้องสดใหม่
เมี่ยงทำกินกันได้ตลอดเวลา เพราะน้ำเมี่ยงสามารถทำเก็บไว้ได้หลายๆ วัน โดยใส่น้ำเมี่ยงที่ทำเสร็จแล้วแต่ยังไม่ต้องผสมกับส่วนผสมอื่นๆ ลงในขวด ปิดฝาแล้วเก็บไว้ในตู้เย็น เก็บไว้ในรูปของน้ำตาลเคี่ยวกับน้ำปลาเท่านั้น สำหรับเครื่องปรุงอื่นๆ อย่างกุ้งแห้ง ถั่วลิสงคั่ว มะพร้าวคั่ว ก็ทำเตรียมไว้โดยแยกใส่ขวดเป็นอย่างๆ ปิดฝาไว้ เมื่อจะใช้จึงเอาออกมาผสมตามลำดับ
การทำเมี่ยงแต่ละชนิดต้องใจเย็น สุขุม เพราะเป็นอาหารที่ต้องใช้แรงงาน เวลา จึงต้องช่วยกันทำจึงจะสำเร็จ อาจเรียกว่าอาหารมนุษยสัมพันธ์ก็ได้ ส่วนผสมเมี่ยงต้องหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เท่าๆ กัน เช่น เมี่ยงคำ ต้องหั่นมะพร้าวเท่าๆ กัน เวลาคั่วจึงมีสีเหลืองเสมอกัน เมี่ยงเป็นอาหารที่สะท้อนให้เห็นถึงความละเอียดและมีระเบียงของคนทำได้เป็นอย่างดี
การกินเมี่ยงต้องกินให้เป็น ต่างคนต่างหยิบเครื่องเมี่ยง ห่อเป็นคำๆ ให้ขนาดพอที่จะเคี้ยวได้สะดวก คือต้องคำเล็กๆ และหากคำนึงถึงสารอาหารที่ร่างกายจะได้รับ เมี่ยงบางอย่างจะมีสารอาหารครบถ้วน คือมีทั้งคาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน เกลือแร่ โดยเฉพาะวิตามินและเกลือแร่จะมีมาก ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือเป็นอาหารที่มีเส้นใยสูง เมี่ยง จึงนับว่าเป็นอาหารว่างเพื่อการสังสรรค์กันระหว่างเพื่อนฝูงและญาติมิตร เพราะการกินเมี่ยงต้องกินกันหลายๆ คนจึงจะอร่อย
เครื่องเมี่ยง
กุ้งแห้งชนิดจืดหั่นบางทอด 1/4 ถ้วย ส้มโอสีขาวแกะเอาแต่เนื้อ 1/2 ลูก ส้มโอสีแดงแกะเอาแต่เนื้อ 1/2 ลูก มะม่วงปอกเปลือกหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก 1 เล็ก ผักกาดดองหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก 1/4 ถ้วย ใบชะพลู 30 ใบ เครื่องปรุงน้ำเมี่ยง
มะพร้าวคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ หอมแดงเผาโขลกละเอียด 1 หัว ขิงหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปีบ 1/2 ถ้วย น้ำปลา 1/4 ถ้วย ผสมน้ำตาล น้ำปลา เข้าด้วยกัน ยกขึ้นตั้งไฟ เคี่ยวพอเหนียว ใส่ขิง หอมแดง คนให้เข้ากัน ใส่มะพร้าว คนให้เข้ากันและข้นเหนียว
วิธีจัดเสิร์ฟ วางใบชะพลูลงบนจาน จัดเครื่องปรุงเมี่ยงอย่างละน้อยวางข้างบน ตักน้ำเมี่ยงหยอดเป็นคำๆ
เครื่องเมี่ยง
มะพร้าวหั่นชิ้นเล็กคั่ว 1/2 ถ้วย ถั่วลิสงคั่ว 1/2 ถ้วย ขิงอ่อนหั่นฝอย 1/4 ถ้วย ใบชะพลู 25-30 ใบ เครื่องปรุงน้ำเมี่ยง
กุ้งแหงป่น 1/4 ถ้วย งาขาวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปีบ 1/2 ถ้วย น้ำปลา 1/2 ถ้วย น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ เคี่ยวน้ำปลา น้ำตาล เข้าด้วยกัน ใส่น้ำมะนาว เคี่ยวพอข้น ใส่กุ้งแห้ง งาขาวคั่ว คนให้เข้ากัน ยกลง
วิธีทำ ผสมน้ำเมี่ยง มะพร้าวคั่ว ถั่วลิสง ขิงอ่อน คนให้เข้ากัน
วิธีจัดเสิร์ฟ จัดใบชะพลูเป้นใบๆ ลงบนจาน ตักเครื่องที่ผสมประมาณ 2 ช้อนชาใส่ ห่อเป็นรูปกรวย
เครื่องเมี่ยง
กุ้งนึ่งแกะเปลือกหั่นชิ้นเล็ก 3 ช้อนโต๊ะ ขิงสดหั่นฝอย 1/4 ถ้วย หอมแดงหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก 1/4 ถ้วย พริกขี้หนูสวนซอย 1 ช้อนโต๊ะ ใบมะกรูดหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ มะม่วงดิบปอกเปลือกฝานเป็นแผ่นๆ 2 ลูก เครื่องปรุงน้ำเมี่ยง
มะพร้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ ถั่วลิสงคั่วป่น 2 ช้อนโต๊ะ กุ้งแห้งป่น 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปีบ 1/2 ถ้วย น้ำปลา 1/2 ถ้วย ผสมน้ำตาล น้ำปลา เข้าด้วยกัน ยกขึ้นตั้งไฟ เคี่ยวให้เหนียว ใส่กุ้งแห้ง มะพร้าว ถั่วลิสง คนให้เข้ากัน ยกลง
วิธีจัดเสิร์ฟ วางมะม่วงลงบนจาน วางกุ้ง ขิง หอมแดง อย่างละเล็กน้อยบนมะม่วง ตักน้ำเมี่ยงหยอด โรยใบมะกรูด และพริกขี้หนู