น้ำดื่มสมุนไพรจากพืชและผลไม้
พุทรา เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางใบเดี่ยว ใบมีลักษณะค่อนข้างกลม กิ่งก้านมีหนาม ออกดอกเป็นช่อ ผลกลม บางชนิดเมื่อสุกจะมีรสหวาน บางชนิดก็มีรสเปรี้ยว เป็นพืชตระกูลเล็บเหยี่ยว
ส่วนผสม
พุทรา สุกงอม 3 ถ้วยตวง น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง น้ำตาล 1 ถ้วยตวง เกลือ 1/4 ช้อนชา วิธีทำ
นำพุทราล้างน้ำให้สะอาด เติมน้ำลงไป แล้วนำไปต้ม ต้มจนผลพุทราเปื่อยพอยีได้ หลังจากนั้นนำมายีให้เนื้อหลุดออกจากเมล็ด กรองเอาเมล็ดและเปลือกทิ้ง นำน้ำกับเนื้อพุทราที่กรองได้ไปตั้งไฟ เติมน้ำตาลทราย เกลือป่น แล้วชิมรสดู จะได้น้ำพุทราที่อร่อยมีรสเปรี้ยวนำ ตามด้วยรสหวาน เวลาดื่มใส่น้ำแข็ง ช่วยแก้กระหายน้ำ ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- พุทรา มีวิตามินซี ฟอสฟอรัส ไขมัน คัลเซียม
- เปลือก ลำต้น ใช้ต้มน้ำดื่ม รักษาอาการท้องร่วง
- ราก ต้มดื่มแก้ไข้
- ผล มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงกำลัง
- ผลสุก นำมารับประทานสดๆ หรือใช้ เชื่อม กวน ทำแยม
มะดัน เป็นไม้ยืนต้นชนิดหนึ่ง ชอบขึ้นตามริมน้ำ ผลมีสีเขียว ขนาดเท่าหัวแม่มือหรือใหญ่กว่าบ้างเล็กน้อย มีรสเปรี้ยวจัด รับประทานได้ทั้งมะดันแก่ และมะดันอ่อน
ส่วนผสม
มะดัน 6-7 ผล น้ำเปล่า 1 1/2 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง เกลือป่น 1/4 ช้อนชา วิธีทำ
นำมะดันล้างน้ำให้สะอาด ผ่าครึ่งแล้วเอาเมล็ดออก จากนั้นเติมน้ำใส่หม้อตั้งไฟ ใส่เนื้อมะดัน พอน้ำเดือด เติมน้ำเชื่อมให้ออกรสหวาน แล้วต้มต่อจนเนื้อมะดันเปื่อยนิ่ม กรองเอากากออก เติมเกลือป่นเล็กน้อย จะทำให้น้ำมะดันมีรสเปรี้ยวหวานมากขึ้น เวลาดื่มควรเติมน้ำแข็งลงไป เพื่อช่วยแก้กระหายน้ำ ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- มะดัน มีวิตามินซี
- ใบ นำมาปิดปากภาชนะเวลาดองผักก่อนนำไปตากแดด
- ใบอ่อน นำมาใส่ในแกงเผ็ดได้ หรือจะใช้รสเปรี้ยวของมะดันแทนมะนาวก็ได้
- มะดัน ช่วยล้างยางผลไม้ได้ หรือใส่มะดันในหัวปลีที่หั่นซอยจะทำให้หัวปลีขาว
- นำมะดันมารับประทานดิบๆ หรือแช่อิ่มเก็บไว้ได้หลายวัน
กระเจี๊ยบ เป็นไม้พุ่มเตี้ย แตกกิ่งก้าน ลำต้นมีสีม่วงอมแดง ใบมีสีแดงอมเขียว ขอบใบเป็นหยักๆ ออกดอกตรงง่ามกิ่ง กลีบดอกสีชมพู โคนกลีบสีแดงเข้ม
ส่วนผสม
กลีบดอกกระเจี๊ยบ 3 ถ้วยตวง น้ำ 3 ลิตร น้ำตาล 1 กิโลกรัม เกลือ 1/4 ช้อนชา วิธีทำ
เตรียมกระเจี๊ยบ นำมาล้างน้ำให้สะอาด เติมน้ำแล้วนำไปต้ม (ควรเป็นหม้อเคลือบ) ประมาณ 40 นาที เนื้อกระเจี๊ยบจะเปื่อยนิ่ม สีของน้ำจะเป็นสีแดงสด จากนั้นนำไปกรองกากออก จะได้น้ำกระเจี๊ยบสด เติมน้ำตาลทราย เกลือ นำไปตั้งไฟอีกครั้งประมาณ 3 นาที แล้วยกลง จะได้น้ำกระเจี๊ยบที่มีรสชาติเปรี้ยวหวานอร่อยดี
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- กลีบกระเจี๊ยบแดง มีธาตุแคลเซียมสูง มีวิตามินเอ วิตามินซี กรดซิตริก ฟอสฟอรัส
- เป็นยาระบายอ่อนๆ เป็นยาขับปัสสาวะ ช่วยทำให้ปัสสาวะคล่องขึ้น ลดความดันโลหิตสูง แก้กระหายน้ำ
กระท้อน เป็นไม้ป่ายืนต้นขนาดใหญ่ แตกกิ่งก้านสาขา ใบสีเขียว เมื่อแก่จัดจะเปลี่ยนเป็นสีแดง กิ่งอ่อนจะมีขนนุ่มๆ ดอกสีเหลืองอ่อน ขนาดเล็ก ผลดิบมีสีเขียว มียางมาก ผลสุกมีสีเหลือง เมื่อผ่าออกจะเห็นเมล็ดใน มีปุยสีขาวหุ้ม หนึ่งผลมีหลายเมล็ด
ส่วนผสม
เนื้อกระท้อน 1 ถ้วยตวง น้ำต้มสุก 1 1/2 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1 ถ้วยตวง เกลือ 1/4 ช้อนชา วิธีทำ
เลือกกระท้อนสุกที่มีเนื้อมาก นำมาปอกเปลือกออก ล้างให้สะอาด ฝานเป็นชิ้นเล็กๆ นำมาใส่เครื่องปั่น เติมน้ำสุก น้ำเชื่อม ใส่เกลือ ปั่นจนเนื้อกระท้อนละเอียด จะได้น้ำน้ำกระท้อนสีขาวขุ่นที่มีเนื้อกระท้อนปนอยู่ รสชาติหวานอมเปรี้ยว อร่อยชื่นใจ
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- เนื้อกระท้อน มีวิตามินเอ วิตามินซี ฟอสฟอรัส คัลเซียม กรดอินทรีย์ มีน้ำตาล คาร์โบไฮเดรต
- ใบสด ใช้ต้มอาบ ช่วยขับเหงื่อในคนที่เป็นไข้
- รากกระท้อน ตำใส่น้ำและน้ำส้มสายชู ดื่มช่วยขับลม และแก้ท้องเดิน
- เปลือกลำต้น ตำทาแก้โรคผิวหนัง
ต้นกล้วย ลักษณะทั่วไป มีเหง้าใต้ดิน สีน้ำตาลเข้ม ต้นบนดินมีลักษณะเป็นกาบใบซ้อนหุ้มห่ออัดกันแน่น เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ใบกว้าง เส้นกลางใบนูน กลีบใบสีเขียวเข้ม ใต้ใบมีสีอ่อน สีขาวนวล มีดอกเรียกว่าหัวปลี ผลเป็นเครือ ผลดิบมีสีเขียว เมื่อสุกจะมีสีเหลืองทอง
ส่วนผสม
กล้วยหอมหั่นเป็นชิ้น 1 ถ้วยตวง น้ำสุก 1 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง นมสด 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ
นำกล้วยหอม ปอกเปลือกออก หั่นเป็นชิ้นๆ ใส่เครื่องปั่น เติมน้ำสุก น้ำเชื่อม นมสด ปั่นจนกล้วยหอมละเอียด จะได้น้ำกล้วยหอม สีเหลืองอ่อน รสชาติหอมหวานชื่นใจ
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- กล้วยหอม มีวิตามินเอ วิตามินซี ฟอสฟอรัส โปรตีน คัลเซียม มีสารเพกติน มีน้ำตาลหลายชนิด
- ใบตอง ใช้ปิดแผลไฟไหม้ ใช้ห่อขนม
- เปลือกกล้วยหอมสุก ช่วยรักษาส้นเท้าแตก
- ยางกล้วย ใช้ห้ามเลือด
- เนื้อกล้วย ฝานทอดอบเนย ทำเค้กกล้วยหอม
- ลำต้น ใช้ทำแพ ใช้เลี้ยงหมู
- กาบกล้วย ใช้ทำเชือก
- หัวปลี ใช้ยำ แกงเลียง
เก๊กฮวย เป็นไม้ดอกตระกูลเดียวกับทานตะวัน ปลูกมากทางภาคเหนือ เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นตรง ลักษณะใบเป็นรูปใข่ ปลายใบแหลม ขอบเว้า ออกดอกเป็นกระจุก ดอกสีเหลืองขนาดเล็ก นำมาตากแห้งเก็บไว้ได้นาน
ส่วนผสม
ดอกเก๊กฮวย 1 ถ้วยตวง น้ำ 2 ถ้วยตวง น้ำตาลกรวด 1/2 ถ้วยตวง วิธีทำ
ใช้ดอกเก๊กฮวยแห้ง มาล้างให้สะอาด เติมน้ำลงในหม้อต้ม ใส่เก๊กฮวยลงในหม้อ ต้ม 2 นาที จนน้ำที่ต้มเป็นสีเหลือง แล้วนำมากรอง เอากากออก เติมน้ำตาลลงไป ต้มจนน้ำตาลละลาย จะได้น้ำเก๊กฮวยที่มีรสชาติหวานหอมชื่นใจ
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- เก๊กฮวยพันธุ์เบญจมาศหนู มีน้ำมันหอมระเหย มีรสขม
- ดอก เป็นยาระงับอาการปวดศีรษะ ไข้หวัด ขับลมในลำไส้ บำรุงประสาท
- ดอกและใบ ต้มละลายนิ่ว
- ใบและต้นใช้รักษาโรคผิวหนังได้
- เก๊กฮวยพันธุ์เบญจมาศสวน มีน้ำมันหอมระเหย มีสารฝาดสมาน
- ดอก ช่วยย่อยและเจริญอาหาร เป็นยาระบาย แก้กระหายน้ำ แก้อาการร้อนใน
- ใบ แก้ปวดศีรษะ
- ต้น ผสมกับพริกไทยดำรักษาโรคโกโนเรีย ถ้าสกัดเอาน้ำจากต้นสด ช่วยลดอาการอักเสบ
ขิง เป็นพืชล้มลุก มีเหง้าใต้ดิน เป็นแง่ง มีลำต้นบนดิน มีกาบใบหุ้มกันแน่น ใบเล็กเรียว ขึ้นเป็นสองแถวสลับกัน ออกดอกเป็นช่อ สีเหลืองแกมเขียว ก้านดอกจะแทงออกมาจากแง่งของขิง ขิงอ่อนเหง้าจะเป็นสีนวล ถ้าแก่จะเป็นสีน้ำตาล
ส่วนผสม
ขิงหั่นเป็นชิ้นๆ ประมาณ 1 ถ้วยตวง น้ำ 2 ถ้วยตวง น้ำตาล 1/2 ถ้วยตวง วิธีทำ
นำขิงที่ไม่แก่มากนัก มาปอกเปลือกออก ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นๆ พอเหมาะ แล้วทุบพอแหลก เติมน้ำในหม้อต้ม ใส่ขิงที่ทุบแตกต้มประมาณ 10 นาที กรองกากขิงออก จะได้นำขิงสด เติมน้ำตาล คนให้น้ำตาลละลาย อย่านำไปตั้งไฟอีกเพราะจะทำให้น้ำหอมระเหยออกหมด แล้วจะได้น้ำขิงสดที่มีสีเหลืองอ่อน มีรสเผ็ดเล็กน้อย หอมหวาน
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- ขิง เป็นพืชที่มีน้ำมันหอมระเหย มีฟอสฟอรัส คัลเซียม
- ขิงแก่ แก้อาการคลื่นไส้ อาเจียน เมารถ เมาเรือ โดยนำมาต้มดื่มน้ำ แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ ขับลม ช่วยย่อยอาหารจำพวกโปรตีน ใช้เป็นยาแก้ไอ
- นอกจากนี้ ขิง ยังใช้ประกอบอาหารอีกหลายอย่าง เช่น ยำ ผัด ขิงดอง ใส่ขนมหวาน มันเทศต้ม น้ำเต้าฮวย
ขนุน เป็นไม้ยืนต้นใบค่อนข้างหนา ใบดก หนาทึบ ดอกตัวผู้จะเป็นแท่งยาว ดอกตัวเมียจะมีบริเวณโคนต้นหรือโคนกิ่ง ซึ่งต่อไปจะกลายเป็นผล ผลมีลักษณะกลมยาว ผิวมีหนาม เนื้อในเป็นยวง มีสีเหลือง รสชาติหอมหวาน
ส่วนผสม
เนื้อขนุน 1 ถ้วยตวง น้ำต้มสุก 2 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง นมสด 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ
แกะเนื้อขนุนแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่เครื่องปั่น เติมน้ำ น้ำเชื่อม และนมสด 1 ช้อนโต๊ะ ปั่นจนเนื้อขนุนละเอียด จะได้น้ำขนุนสีเหลืองข้นรสชาติหอมหวาน
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- ขนุน มีวิตามินเอ คัลเซียม ฟอสฟอรัส น้ำมันหอมระเหย มีน้ำตาลสูง
- รากขนุนพันธุ์ละมุด รักษาโรคท้องร่วง
- ผล ใช้รับประทาน ใช้กวน เชื่อม อบแห้ง แต่งหน้าขนมหวาน ใส่ขนมหวาน ขนมรวมมิตร ทำแยม
- เมล็ด ใช้ต้ม หรือใส่ในแกงเผ็ดก็อร่อย
แคลตาลูป เป็นพืชล้มลุก มีลักษณะเป็นไม้เถา เถาและก้านใบมีขนนิ่ม เถาเป็นเหลี่ยม ใบเหลี่ยมมน ดอกตัวผู้และตัวเมียอยู่คนละดอก มีผลกลมรี ผิวผลมีสีเหลือง เนื้อในมีสีเหลืองอมส้ม
ส่วนผสม
เนื้อแคนตาลูป 1 ถ้วยตวง น้ำต้มสุก 2 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง วิธีทำ
นำแคนตาลูปมาปอกเปลือก ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำมาใส่เครื่องปั่น เติมน้ำสุก เติมน้ำเชื่อม ปั่นจนเนื้อแคนตาลูปละเอียด จะได้น้ำแคนตาลูปส้มอ่อนๆ ขุ่นข้น รสชาติหอมหวาน น่าดื่ม
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- แคนตาลูป มีน้ำตาล มีวิตามินซีเล็กน้อย มีวิตามินเอสูงมาก มีคัลเซียม ฟอสฟอรัส
- ผลสุก รับประทานเป็นผลไม้ รสหอมหวาน
เงาะ เป็นไม้ยืนต้น แตกกิ่งก้านสาขา เป็นทรงพุ่มเตี้ย ออกดอกตรงปลายยอด ดอกสีนวล ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อสุกเป็นสีแดง ผิวผลมีขน เนื้อมีสีขาว รสหวาน
ส่วนผสม
เนื้อเงาะ 1 ถ้วยตวง น้ำต้มสุก 1 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/4 ถ้วยตวง เกลือป่น 1/4 ช้อนชา วิธีทำ
นำเงาะล้างให้สะอาด แกะเปลือกและเมล็ดข้างในออก เอาแต่เนื้อเงาะ ใส่ในเครื่องปั่น เติมน้ำต้มสุก น้ำเชื่อม เกลือ ปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกัน จะได้น้ำเงายสด หวานชื่นใจ
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- เงาะ มีสานแทนนิน วิตามินซี มีน้ำตาลสูง
- เปลือกเงาะ ใช้เป็นยาขับพยาธิได้
- ผลสุก ใช้รับประทานได้ ทำผลไม้กระป๋อง ทำแยม เงาะกวน
ข้าวโพด เป็นพืชล้มลุก ลำต้นตรง กลม ต่อกันเป็นปล้อง สูงประมาณ 1-2 เมตร ใบเลี้ยงเดี่ยวเรียวยาว ก้านใบหุ้มลำต้น ออกดอกบริเวณกาบใบ เมื่อโตขึ้นจะเป็นฝักข้าวโพด ฝักข้าวโพดหุ้มด้วยกาบบางๆ หลายชั้น
ส่วนผสม
ข้าวโพดต้มสุก 1 ถ้วยตวง น้ำต้มสุก 2 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง เกลือ 1/4 ช้อนชา นมสด 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ
นำข้าวโพดสดมาลอกเปลือกออก แล้วล้างให้สะอาด นำข้าวโพดต้มให้สุก 15 นาที จากนั้นแกะเมล็ดให้ได้ประมาณ 1 ถ้วยตวง นำไปใส่เครื่องปั่นโดยเติมน้ำสุก น้ำเชื่อม เกลือ นมสด ปั่นจนข้าวโพดละเอียด จะได้น้ำข้าวโพดรสชาติอร่อย
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- เมล็ดข้าวโพด มีคัลเซียม มักเนเซียม ฟอสฟอรัสสูง โปรตีน แป้ง วิตามินเอ
- ฝอยข้าวโพดสีน้ำตาล ใช้ทำน้ำมันหอมระเหย มีสารที่เป็นอัลคาลอยด์ที่ระเหยได้ ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ
- ซังข้าวโพด ใช้ปรุงเป็นยารักษาตานขโมยในเด็ก
- ฝักข้าวโพด ใช้ต้ม ย่างรับประทาน ทำซุปข้าวโพด ทำแป้งข้าวโพด
- ฝักอ่อน ใช้ผัดเป็นอาหาร
ตะไคร้ เป็นพืชสวนครัว ปลูกง่าย ลำต้นเป็นเหง้าอยู่ใต้ดิน เป็นใบเดี่ยว ใบเรียวแหลม ขอบใบเรียวคม ลำต้นอยู่บนดิน กาบใบสีออกเทาเขียว หรืออมแดง ขยายพันธุ์โดยการแตกหน่อ
ส่วนผสม
ตะไคร้สด 10 ต้น น้ำ 2-3 ถ้วยตวง น้ำตาล 1 ถ้วยตวง วิธีทำ
นำตะไคร้ 10-20 ต้น ตัดใบออก นำมาล้างให้สะอาด ตัดเป็นท่อนๆ พอประมาณ ทุบพอแตก ใส่ในหม้อ เติมน้ำต้มให้เดือดประมาณ 5 นาที ยกลง กรองเอกากออก นำไปต้มใหม่พร้อมใส่น้ำตาล คนให้น้ำตาลละลาย ยกลงปล่อยให้เย็น จะได้น้ำตะไคร้สีเขียวอ่อนใส มีกลิ่นหอมของตะไคร้อ่อนๆ
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- นำตะไคร้มากลั่นด้วยไอน้ำให้น้ำมันหอมระเหย ซึ่งสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของบัคเตรีได้
- มีวิตามินเอ ฟอสฟอรัส เมนทอล
- ตะไคร้ต้น รับประทานแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ ใช้แต่งกลิ่นอาหาร ดับกลิ่นคาว ใช้ทำเครื่องเทศต่างๆ
แตงกวา เป็นพืชจำพวกไม้เถา ใบมีขน ดอกสีเหลือง ผลกลมยาว มีหลายพันธุ์ที่รู้จักกัน มีแตงกวา กับแตงร้าน ผิวผลบาง มีสีขาวปนเขียว ถ้าผลสุกจะเป็นสีเหลือง
ส่วนผสม
แตงกวา 2 ผล น้ำต้มสุก 1 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง เกลือ 1/4 ช้อนชา วิธีทำ
แตงกวา 2 ผล ปอกเปลือกออก ล้างให้สะอาด คว้านเอาเมล็ดออกหั่นเป็นชิ้นบางๆ ใส่เครื่องปั่น เติมน้ำสุก น้ำเชื่อม ใส่เกลือป่นเล็กน้อย ปั่นให้ละเอียด ตอนดื่มใส่น้ำแข็งทุบ หรือนำเข้าแช่เย็นเลยก็ได้ จะได้น้ำแตงกวาที่มีสีเขียวอ่อนกลิ่นหอมอ่อนๆ รสหวานเย็น
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- แตงกวา มีวิตามินซี วิตามินอี คัลเซียม เหล็ก
- น้ำแตงกวา ใช้รักษาโรคผิวหนัง น้ำร้อนลวก แผลไฟไหม้
- ราก ใช้ตำแล้วพอก ลดอาการอักเสบจากขนสัตว์
- เมล็ดแก่ ใช้กินเป็นยาขับพยาธิ
- ผล ใช้เป็นผักสด จิ้ม ยำ ผัด ดอง
- ผลหั่นบาง บำรุงผิวหน้า
แตงไทย เป็นไม้เถา ใบมีขนาดใหญ่ ทุกส่วนมีขน ผลกลมโตหรือกลมรี ผลสีเขียวสลับขาว เนื้อในสีขาวนวล ผลสุกมีกลิ่นหอม
ส่วนผสม
แตงไทย 1 ถ้วยตวง น้ำสุก 1/2 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง เกลือป่น 1/4 ช้อนชา วิธีทำ
นำแตงไทยสุก ปอกเปลือกผ่าเอาเมล็ดออก หั่นเอาแต่เนื้อใส่เครื่องปั่น เติมน้ำสุก ใส่เกลือเล็กน้อย ปั่นให้ละเอียด เมื่อดื่มเติมน้ำแข็งลงไปหรือนำเข้าแช่เย็น จะได้น้ำแตงไทยที่มีรสหอมหวานอร่อย
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- เนื้อ รับประทานแก้โรคเลือดกำเดาออก
- ผลแก่ มีวิตามินซี วิตามินเอ คัลเซียม
- เมล็ดแก่ เป็นยาขับปัสสาวะ แก้ไอ
- ผลอ่อน ใช้เป็นผักจิ้ม ยำ แกง ดอง
- ผลสุก รับประทานกับน้ำเชื่อมและน้ำกะทิ เป็นขนมหวาน
แตงโม เป็นไม้เถา ก้านใบยาว ทุกส่วนมีขน ผลมีขนาดใหญ่มีหลายสายพันธุ์ ผิวสีเขียวแก่ เขียวอ่อน สีขาวนวล เนื้อในมีสีแดง สีเหลือง มีเมล็ดมากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่สายพันธุ์
ส่วนผสม
เนื้อแตงโม 1 ถ้วยตวง น้ำต้มสุก 1/2 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง วิธีทำ
นำแตงโมมาผ่าซีก หั่นเอาแต่เนื้อ ใส่เครื่องปั่น เติมน้ำสุก ใส่เกลือป่นเล็กน้อย ปั่นให้เข้ากัน เมื่อจะดื่มใส่น้ำแข็ง น้ำแตงโมจะมีสีแดงน่าดื่ม
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- เนื้อแตงโม มีรสหวานเย็น รับประทานแก้ร้อนใน กระหายน้ำ ขับลมในกระเพาะปัสสาวะ
- รากและใบสด ต้มดื่มแก้โรคท้องร่วง บิด
- ผลอ่อน ใช้ปรุงอาหาร ลวก จิ้ม แกง
- เปลือกแตงโมสด ใช้แกง และยำ
ถั่วเหลือง เป็นพืชล้มลุก มีลำต้นสูง มีใบประกอบ ใบย่อย ใบยาวเรียว ดอกเป็นช่อ ผลเป็นฝัก ปกคลุมด้วยขนสีน้ำตาล ฝักหนึ่งมีหลายเมล็ด เมล็ดกลมรี เมล็ดสีนวล เหลืองอ่อน ดำปนน้ำตาล
ส่วนผสม
ถั่วเหลือง 1 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 1 1/2 ถ้วยตวง น้ำ 6 ถ้วยตวง วิธีทำ
นำถั่วเหลืองคัดเอาเฉพาะเมล็ดดีๆ ล้างให้สะอาด นำไปแช่น้ำ 4-5 ชั่วโมง จากนั้นใส่เครื่องปั่น เติมน้ำ ปั่นให้ละเอียดแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง เอากากออก น้ำถั่วเหลืองที่ได้นำไปต้มให้เดือด เติมน้ำตาลทราย ปรุงรสหวานตามชอบ จะได้น้ำถั่วเหลืองที่หวานอร่อย รับประทานร้อน เย็นตามชอบ
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- ถั่วเหลือง มีโปรตีนสูง ฟอสฟอรัส คาร์โบไฮเดรต เหมาะสำหรับคนที่เป็นโรคเบาหวาน
- ใช้ทำน้ำเต้าหู้ เต้าเจี้ยว เต้าฮวย ทำน้ำมัน
- กาก ใช้เป็นอาหารสัตว์ ใช้ทำปุ๋ย
บัวบก เป็นพืชที่ขึ้นเองในที่ชื้นแฉะ จะเลื้อยแตกราก และใบตามข้อ ใบเป็นใบเดี่ยว ก้านใบยาว ใบออกเป็นกระจุก ขยายพันธุ์ได้ง่าย
ส่วนผสม
ใบบัวบก 2 ถ้วยตวง น้ำต้มสุก 2 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1 ถ้วยตวง วิธีทำ
นำใบบัวบกสดมาล้างให้สะอาด หั่นเป็นฝอย ใส่เครื่องปั่น เติมน้ำสุก ปั่นให้ละเอียด นำมากรองแยกกากออก เติมน้ำเชื่อมลงไปพอหวาน จะได้น้ำบัวบกที่มีสีเขียวใส เมื่อจะดื่มเติมน้ำแข็งลงไป ดื่มแก้กระหาย
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- มีวิตามินเอ คัลเซียม
- รับประทานแก้ร้อนใน ดับกระหาย
- เป็นยาบำรุงหัวใจ ขับปัสสาวะ
- ใช้เป็นเครื่องเคียง ใช้ยำ
เตยหอม เป็นพืชที่ขึ้นรวมกันเป็นกอ ลำต้นกลมต่อเป็นข้อๆ โคนมีรากงอกเพื่อยึดลำต้น ใบงอกออกจากลำต้นเรียงเป็นวงรอบลำต้น ใบสีเขียวเรียวยาว ปลายใบแหลม ชอบขึ้นในน้ำชื้นแฉะ ลำต้นสูง 2-3 ฟุต เป็นพืชตระกูลเดียวกับการเกด
ส่วนผสม
ใบเตยหอม 20-25 ใบ น้ำ 4 ถ้วยตวง น้ำตาล 1 ถ้วยตวง วิธีทำ
นำใบเตยสดมาล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นพอประมาณ แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก ต้มในน้ำเดือด เคี่ยวไปประมาณ 10 นาที เติมน้ำตาลทรายให้ออกรสหวาน กรองเอากากออก ส่วนที่สอง ให้นำไปปั่นกรองเอากากออก นำน้ำใบเตยที่มีสีเขียวเติมลงไปในน้ำต้มครั้งแรก จะได้น้ำใบเตยสีเขียว มีกลิ่นหอม เวลาดื่ม เติมน้ำแข็ง รู้สึกหอมหวานชื่นใจ
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- ใบเตยสด มีน้ำมันหอมระเหย
- ใช้แต่งเป็นสีอาหาร เป็นสารคลอโรฟิลล์ ใช้ต้มดื่มบำรุงหัวใจ ทำให้ชุ่มชื่น
- ราก นำมาสกัด ใช้ลดน้ำตาลในเลือด
- ใบ ใช้ทำกระทงตะโก้ ห่อไก่ ใส่หม้อหุงข้าวทำให้ข้าวหอม
ฝรั่ง เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก เปลือกต้นเรียบและเห็นเป็นดวงสีน้ำตาลอ่อน ใบเดี่ยว ผิวผลสีเขียว เมื่อสุกผิวจะเขียวอ่อนตึง เนื้อในสีขาว ภายในมีเมล็ด
ส่วนผสม
เนื้อฝรั่ง 1 ถ้วยตวง น้ำต้มสุก 2 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง เกลือป่น 1/4 ช้อนชา วิธีทำ
เลือกฝรั่งที่แก่จัดแต่ยังไม่นิ่ม ล้างน้ำให้สะอาดผ่าเอาแต่เนื้อใน หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ใส่เครื่องปั่น เติมน้ำสุก ปั่นให้ละเอียด กรองด้วยผ้าขาวบาง เติมน้ำเชื่อม หรืออาจจะเติมน้อยกว่าที่บอกเอาไว้เพราะฝรั่งจะมีรสหวานอยู่แล้ว ต้องชิมดูก่อน เติมเกลือเล็กน้อย จะได้น้ำฝรั่งที่มีสีเขียวอ่อน ๆ มีกลิ่นหอมของผลฝรั่ง เติมน้ำแข็งลงไปหรือแข่เย็น ดื่มแล้วสดชื่น
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- ฝรั่ง มีวิตามินซี สูงมาก มีน้ำตาล และวิตามิน เอ ธาตุเหล็ก คัลเซียม
- ผลสุก รับประทานเป็นยาระบายอ่อน ๆ
- ใบฝรั่ง เคี้ยว และอมไว้สักพัก ระงับกลิ่นปากได้
น้ำฟักทอง ฟักทอง เป็นไม้เถาขนาดใหญ่ เลื้อยไปตามดิน ยาว 5-12 เมตร เถา ก้านใบ แผ่นใบ ก้านดอก กลีบเลี้ยง และผลอ่อน มีขนยาว ใบ เป็นใบเดี่ยว เว้าเป็นหยัก ดอกเดี่ยว ดอกตัวผู้กับตัวเมีย แยกกัน แต่อยู่ในเถาเดียวกัน ผิวผล เมื่อยังอ่อน ออกสีเขียว เมื่อแก่จะเป็นสีเขียวสลับเหลือง ผิวขรุขระ เปลือกแข็ง เนื้อในสีเหลือง ไส้ เป็นเส้นใยสีเหลืองนิ่ม มีเมล็ดสีขาวแบน ๆ ติดอยู่จำนวนใาก ฟักทองเป็นพีชตระกูล มะระ
ส่วนผสม
เนื้อฟักทอง 1 ถ้วยตวง น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1 ถ้วยตวง เกลือ 1/4 ช้อนชา วิธีทำ
นำฟักทองไปนึ่งให้สุก แล้วใส่เครื่องปั่น เติมน้ำ แล้วปั่นให้ละเอียด นำไปตั้งไฟ ต้มให้เดือด เติมน้ำเชื่อม และเกลือลงไป ชิมรส เมื่อได้รสชาติตามชอบ กรองด้วยผ้าขาวบาง ก็จะได้น้ำฟักทองสีเหลือง น่ารับประทาน
ประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการ
- ฟักทอง เป็นพืชที่มี วิตามิน เอ คัลเซียม วิตามิน ซี ฟอสฟอรัส โปรตีน
- ใบอ่อน มีวิตามิน สูง เท่ากับเนื้อฟักทอง
- เมล็ดแก่จัด ขับพยาธิตัวตืด ลดอาการเป็นนิ่วได้
- เมล็ดฟักทอง มีน้ำมันที่เป็นยาบำรุงประสาท
- ยอดฟักทอง นำมาประกอบอาหารได้ เช่น แกงเลียง แกงส้ม หรือลวกจิ้มน้ำพริก
น้ำมันแกว มันแกว เป็นไม้เถา ลำต้นอยู่ใต้ดิน หัวมันแกวใช้รับประทานได้ มันแกวมีรสหวานเย็น มีน้ำมาก แก้กระหาย
ส่วนผสม
เนื้อมันแกว 1 ถ้วยตวง น้ำสุก 1 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง วิธีทำ
นำมันแกว มาใส่เครื่องปั่น เติมน้ำสุก น้ำเชื่อม ปั่นให้เข้ากัน เสร็จแล้วรับประทานกับน้ำแข็ง หรือจะนำเข้าแช่ตู้เย็นไว้รับประทาน อีกวิธีหนึ่ง ให้นำมันแกว มาปั่นแล้วกรองเอาเฉพาะน้ำ นำมาผสมกับน้ำเชื่อมรับประทาน กับน้ำแข็ง หรือจะนำไปแช่ตู้เย็นไว้รับประทาน
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- เนื้อมันแกวสด ปอกเปลือก รับประทานแก้กระหาย
- ถ้ามีไข้ ปวดศีรษะ ให้เอามันแกวต้มน้ำรับประทาน
- ถ้าเป็นความดันสูง ให้เอามันแกวคั้นน้ำรับประทาน
น้ำมะขาม มะขาม เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีกิ่งก้านเหนียวมาก ออกดอกเป็นช่อ ดอกย่อยสีเหลืองส้ม ผลดิบ เปลือกผลจะติดกับเนื้อใน เมื่อสุกเปลือกจะแยกออกจากเนื้อใน และสีเปลือกก็จะเปลี่ยนจากสีเขียวอมน้ำตาล เป็นสีน้ำตาลแก่ เนื้อในจะมีสีน้ำตาลแดง
ส่วนผสม
มะขาม 2 ถ้วยตวง น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง เกลือป่น 1/4 ช้อนชา วิธีทำ
นำมะขามมาล้างน้ำให้สะอาด ใส่หม้อเติมน้ำ ตั้งไฟเคี่ยวจนมะขามเปื่อยพอยีได้ กรองเอากากทิ้ง ตั้งไฟ เติมน้ำตาล และเกลือ ชิมรสดู โดยมีรสหวานนำ ตามด้วยรสเปรี้ยว เวลาดื่ม เติมน้ำแข็ง รสจพกลมกล่อมกำลังดี
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- เนื้อมะขาม มีกรดอินทรีย์สูง ฟอสฟอรัส คัลเซียม วิตามินซี ไขมัน คาร์โบไฮเดรต เป็นยาระบาย คั้นเอาน้ำจิบแก้ไอ ขับเสมหะ
- เมล็ด ใช้ขับพยาธิเส้นด้ายในเด็ก
- เปลือกลำต้น นำไปต้มใช้เป็นยาแก้อาการท้องเดิน
- ใบ ใช้ต้มอาบ แก้อาการไข้
- ผล ดอก และใบอ่อน ใช้ประกอบอาหาร เช่นต้นส้ม
- ฝักอ่อน ใช้ตำน้ำพริก ฝักแก่ นำไปแช่อิ่ม
- เนื้อไม้แก่ ใช้ทำเขียง
น้ำมะเขือเทศ มะเขือเทศ เป็นพืชไม้ล้มลุก ออกดอกออกผลแล้วต้นจะโทรม กิ่งก้านและใบมีขน ดอกช่อหรือดอกเดี่ยว ดอกสีเหลือง ผลดิบสีเขียวอมขาว เมื่อสุกจะเป็นสีแดง ผลสุกจะนิ่มมีเมล็ดจำนวนมาก เป็นพืชตระกูลพริก
ส่วนผสม
มะเขือเทศ 5 ผล น้ำต้มสุก 1 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/4 ถ้วยตวง เกลือ 1/4 ช้อนชา วิธีทำ
มะเขือเทศสุก ล้างน้ำให้สะอาด ผ่าครึ่งใส่เครื่องปั่น เติมน้ำสุกปั่นให้เข้ากัน เติมน้ำเชื่อม ใส่เกลือเล็กน้อย ชิมดูตามใจชอบ จะได้น้ำมะเขือเทศรสเข้มข้น รสหวานหอม มีเปรี้ยวเค็มเล็กน้อย ใส่น้ำแข็ง รับประทานชื่นใจ
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- มะเขือเทศ มีวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินเอ, บ, ซี ฟอสฟอรัส คัลเซียม เหล็ก
- มะเขือเทศสุก จะช่วยย่อยอาหารดีขึ้น ช่วยระบาย ช่วยฟอกเลือด
- ผลสุก รับประทานสด เชื่อม ยำ ทำสลัด ต้ม แกง ผัด ทำซอส
น้ำมะตูม มะตูม เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นและกิ่งใหญ่มีหนามแข็ง มีใบย่อยขนาดใหญ่ 3 ใบ ใบรูปไข่ มีกลิ่นหอม ดอกสีขาว กลิ่นหอม เนื้อในของผล เมื่อดิบจะแข็ง มีสีเหลืองอ่อน เมื่อสุกจะมี สีเหลืองส้ม รสหอมหวาน ภายในมีเมล็ดสีขาวจำนวนมาก เปลือกผล เมื่อสุกจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองอมน้ำตาล เป้นพืชตระกูล มะนาว ส้ม
ส่วนผสม
เนื้อมะตูมแห้ง 20 ชิ้น น้ำ 5 ถ้วยตวง น้ำตาล 1 1/2 ถ้วยตวง วิธีทำ
นำมะตูมแห้ง หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ นำไปปิ้งไฟ หรือคั่วให้เหลือง จะมีกลิ่นหอม ใส่หม้อเติมน้ำ ต้ม เคี่ยว ประมาณ 30 นาที กรองเอากากออก เติมน้ำตาล ชิมรสหวานตามชอบ ต้มให้เดือดประมาณ 3-5 นาที เพื่อให้น้ำตาลทรายละลาย ตั้งให้เย็นรับประทานกับน้ำแข็ง หรือแช่ตู้เย็น
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- เนื้อมะตูมสุก มีวิตามิน เอ คัลเซียม ฟอสฟอรัส น้ำตาล และมีน้ำมันหอมระเหย
- ผลแห้ง ชงดื่มเป็นยาแก้ท้องเสีย ช่วยบำรุงธาตุ
- เนื้อผลสุก รับประทาน ช่วยระบายท้อง ช่วยขับลม
มะนาว เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ตามกิ่งก้านมีหนาม ใบมีกลิ่นหอม ออกดอกเป็นกระจุกเล็กๆ กลีบดอกมีสีขาว ผลสีเขียว เมื่อแก่เต็มที่จะออกสีเหลือง ภายในมีเมล็ดสีขาวนวล เป็นพืชตระกูลเดียวกับส้ม
ส่วนผสม
มะนาว 3 ผล น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง น้ำต้มสุก 1 ถ้วยตวง เกลือป่น 1/4 ช้อนชา วิธีทำ
มะนาวคั้นเอาแต่น้ำ เตรียมไว้ เติมน้ำเชื่อมและน้ำต้มสุกลงไป ตามด้วยเกลือป่น คนให้เข้ากัน ชิมรส เวลาจะดื่มก็เติมน้ำแข็ง จะได้น้ำมะนาวที่มีรสหวานเปรี้ยว ดื่มแล้วกระชุ่มกระชวย แก้อาการกระหายน้ำได้ และยังทำให้รู้สึกโล่งคอ
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- มะนาว มีวิตามินซีสูง มีกรดซิตริก
- ผิวมะนาว มีวิตามินเอ และวิตามินซี มีธาตุคัลเซียม ฟอสฟอรัส มีน้ำมันหอมระเหย ใช้ชงดื่มเป็นยาขับลม
- ใบสด ใช้ผสมกับสมุนไพรอื่นๆ ต้มน้ำอาบ
- น้ำมะนาว จิบบ่อยๆ แก้อาการเจ็บคอ ขับเสมหะ แก้อาการวิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน
- ผล ใช้สระผมป้องกันรังแค และป้องกันผมร่วง ใช้ประกอบอาหาร ทำให้อาหารมีรสชาติเข้มข้น
มะพร้าว เป็นพืชยืนต้น ลำต้นกลมตรงและสูง มีใบย่อม จำนวนมากติดกับทางมะพร้าวเป็นใบขนาดใหญ่ ออกดอกเป็นช่อขนาดใหญ่ มีกาบหรือใบประดับหุ้ม เวลาดอกบาน กาบหุ้มก็จะหลุดออก ดอกมีสีเหลืองอมขาว เมื่อดอกตัวผู้บานจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ดอกย่อยจะรวมกันเป็นช่อใหญ่ เมื่อติดผลรวมเรียกว่า ทะลาย มะพร้าวเป็นพืชตระกูลเดียวกับ หมาก ตาล
ส่วนผสม
มะพร้าวอ่อน 1 ผล น้ำต้มสุก 1 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง วิธีทำ
นำมะพร้าวมาปอกเปลือก ใช้มีดเฉาะกะลาตรงส่วนหัวออก เทเอาน้ำข้างในเก็บไว้ แล้วผ่าซีกตักเอาแต่เนื้อออก นำเนื้อมะพร้าวใส่เครื่องปั่น เติมน้ำมะพร้าวที่เก็บไว้ เติมน้ำต้มสุก น้ำเชื่อม ปั่นให้ละเอียด ชิมรสตามชอบ จะได้น้ำมะพร้าวปรุงรส หวาน มัน หอมเย็นชื่นใจ เวลาดื่มใส่น้ำแข็งจะทำให้รู้สึกสดชื่นหอมหวานอร่อย
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- เนื้อมะพร้าว มีน้ำมันร้อยละ 65 มีฟอสฟอรัส คัลเซียม คาร์โบไฮเดรต มีกรดไขมันหลายชนิดที่อิ่มตัว ถ้าทิ้งไว้นานจะมีกลิ่นหืน
- น้ำมะพร้าว ใช้ดื่มเป็นยาถอนพิษเบื่อเมา ในหญิงมีครรภ์ดื่มน้ำมะพร้าวจะช่วยให้เด็กแข็งแรง เพราะมีโปรตีน น้ำตาล คัลเซียม โซเดียม โปรตัสเซียมสูง
- ช่อดอก สามารถนำมาทำเป็นน้ำตาลมะพร้าว ใช้ปรุงอาหาร ทำเนยเทียม สบู่ เทียน
- ใยมะพร้าว ใช้ทำพรมเช็ดเท้า ทำที่นอน
มะเฟือง เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ใบเป็นใบประกอบ ใบย่อยคล้าย ใบมะยม ดอกช่อสั้น กลีบดอกสีขาวปนม่วง ผลมีลักษณะเป็นสันเหลี่ยม 3-4 สัน ผลอ่อนมีสีเขียว ผลแก่มีสีเขียวอมเหลือง เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองออกส้ม ในผลจะมีเมล็ดเล็กๆ อยู่ประมาณ 10-12 เมล็ด มะเฟืองเป็นพืชตระกูลเดียวกับ ตะลิงปลิง
ส่วนผสม
เนื้อมะเฟืองสุก 1 ถ้วยตวง น้ำต้มสุก 1 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง เกลือป่น 1/4 ช้อนชา วิธีทำ
นำเนื้อมะเฟืองใส่เครื่องปั่น เติมน้ำต้มสุก น้ำเชื่อม เกลือป่น ปั่นให้ละเอียด ชมรสตามชอบ จะได้น้ำมะเฟืองสีเหลืองอ่อนๆ ดื่มแล้วชื่นใจ
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- ผลมะเฟือง .มีวิตามินเอ และวิตามินซี ฟอสฟอรัส คัลเซียม
- .ใบและราก ปรุงรับประทานเป็นยาดับพิษร้อน แก้ไข
- ผล ใช้เป็นยาขับเสมหะ ขับปัสสาวะ
มะไฟ เป็นไม้ยืนต้น ใบเดี่ยวค่อนข้างใญ่ ดอกออกเป็นช่อยาวห้อยลง ผลกลม ผิวผลสีเขียว เมื่อสุกมีสีเหลืองส้ม มี 1-4 เมล็ดใน 1 ผล เนื้อผลมีสีชมพูหรือสีขาวนวล เป็นพืชตระกูลเดียวกับมะยม
ส่วนผสม
เนื้อมะไฟ 1 ถ้วยตวง น้ำต้มสุก 1 1/2 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง เกลือป่น 1/4 ช้อนชา วิธีทำ
นำเนื้อมะไฟใส่ผ้าขาวบาง แล้วคั้นเอาแต่น้ำ จากนั้นก็เทน้ำต้มสุกใส่ลงไป กรองเอาเมล็ดทิ้ง เติมน้ำเชื่อม เกลือป่น ชิมรสดู จะได้น้ำมะไฟที่มีรสเปรี้ยวอมหวาน ดื่มกับน้ำแข็งชื่นใจดี
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- ผลสุก มีวิตามินซี น้ำตาล กรดอินทรีย์
- ราก ใช้ปรุงเป็นยาถอนพิษร้อน
- ผลอ่อน ใช้ประกอบอาหาร แกงคั่ว เพราะจะให้รสเปรี้ยว
มะม่วง เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ใบเดี่ยว ใบมีลักษณะยาวรี ดอกมีลักษณะเป็นช่อออกที่ปลายกิ่ง ผลขนาดใหญ่ มีหลายขนาด และหลายพันธุ์ บางชนิดเปรี้ยว บางชนิดหวาน เป็นพืชตระกูลเดียวกับ มะปริง
ส่วนผสม
เนื้อมะม่วง ดิบหรือสุก 1 ถ้วยตวง น้ำต้มสุก 1 1/2 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง เกลือ 1/4 ช้อนชา วิธีทำ
ถ้าใช ้มะม่วงดิบ ล้างให้สะอาด ปอกเปลือก เอาแต่เนื้อใส่เครื่องปั่น เติมน้ำต้มสุก ใส่น้ำเชื่อม ใส่เกลือป่นเล็กน้อย ปั่นให้ละเอียด ชิมรสตามใจชอบ จะได้นำมะม่วงสีขาวขุ่น รสเปรี้ยวหวาน ถ้าใช้ มะม่วงสุก ก็ทำขั้นตอนเดียวกับมะม่วงดิบ แต่ลดปริมาณน้ำเชื่อม เพราะมะม่วงสุกจะมีรสหวนอยู่แล้ว เติมน้ำเชื่อมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- ผลมะม่วง มีวิตามินซี วิตามินเอ ฟอสฟอรัส คัลเซียม กรดอินทรีย์
- เมล็ดในผลแก่จัด แก้ท้องร่วง
- เปลือก ใช้ต้มรักษาอาการท้องเดิน
- ใบมะม่วงอ่อน ใช้เป็นผักจิ้มสด
- ผลดิบ ใช้ยำ จิ้มน้ำปลาหวาน ทำน้ำพริกมะม่วง ใช้ดอง แช่อิ่ม
- ผลสุก รับประทานเป็นของหวาน ข้าวเหนียวมะม่วง
แห้ว เป็นพืชใบเลียงเดี่ยว มีกาบใบขึ้นซ้อนๆ กัน มีหัวอยู่ใต้ดิน หัวแห้วนิยมนำมาทำเป็นขนม และน้ำแห้ว แห้วให้สารอาหารพวกแคลเซียม เหล็ก และวิตามินซี นอกจากนี้แห้วสดยังมีสารที่ต้านเชื้อแบคทีเรียได้หลายชนิด
ส่วนผสม
แห้วสด 20 หัว น้ำ 2 ถ้วยตวง น้ำตาล 1/2 ถ้วยตวง วิธีทำ
ปอกเปลือกแห้วออก แล้วล้างให้สะอาด ตั้งน้ำให้เดือด ใส่แห้วลงไป ต้มให้สุก ใส่น้ำตาล คนจนน้ำตาลละลาย ตั้งพักไว้ให้เย็น รับประทานกับน้ำแข็งหรือนำเข้าแช่ตู้เย็น
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- แห้ว มีรสหวานเย็น มีสรรพคุณดับร้อน แก้กระหาย ช่วยย่อยอาหาร ละลายเสมหะ บำรุงร่างกาย เหามะสำหรับโรคร้อน เช่น คอแห้ง เจ็บคอ แผลร้อนใน แก้พิษสุรา ป้องกันโรคความดันโลหิตสูง
มะละกอ เป็นไม้ยืนต้นเนื้ออ่อน ลำต้นสูงตรง ใบเดี่ยวขนาดใหญ่ ขอบใบหยัก ก้านใบยาวกลวง ดอกตัวเมียมีสีขาวนวล ผลมีขนาดและรูปร่างแตกต่างกันแล้วแต่พันธุ์ บางพันธุ์มีเมล็ดมาก บ้างพันธุ์ไม่มีเมล็ด
ส่วนผสม
เนื้อมะละกอสุก 1 ถ้วยตวง น้ำต้มสุก 1 1/2 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง เกลือป่น 1/4 ช้อนชา วิธีทำ
เลือกมะละกอสุก ปอกเปลือกเอาเมล็ดออก เอาแต่เนื้อหั่นเป็นชิ้นพอประมาณ ใส่เครื่องปั่น เติมน้ำต้มสุก ใส่น้ำเชื่อม ใส่เกลือป่นเล็กน้อย ปั่นให้ละเอียด ชิมรสดูตามใจชอบ จะได้น้ำมะละกอข้น สีแดงส้ม เหลือง แล้วแต่พันธุ์
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- ผลดิบ มีสารเพกติน คัลเซียม วิตามินซี ใช้แกง ต้มจิ้ม ต้มกับหมู ทำส้มตำ
- ผลสุก มีวิตามินเอสูงมาก วิตามินซี เพกติน เหล็ก คัลเซียม และนิยมรับประทานเป็นผลไม้ เป็นยาระบายอ่อนๆ บำรุงธาตุ ใช้กวน และทำซอส
- ราก ต้มเป็นยาขับปัสสาวะ
- ยางผลดิบ เป็นยาถ่ายพยาธิไส้เดือน กันหูด
ละมุด เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ใบเดี่ยว ดอกสีเหลือง ผลรูปไข่ ผิวผลสีน้ำตาล ผลดิบ มียางสีขาวรสฝาดแข็ง ผลสุกจะนิ่มหวานไม่มียาง มีเมล็ดรูปยาวรีสีดำฝังอยู่ในเนื้อ ผลละ 3-4 เมล็ด เป็นพืชตระกูลเดียวกับพิกุล
ส่วนผสม
เนื้อละมุด 1 ถ้วยตวง น้ำต้มสุก 1 1/2 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง เกลือ 1/4 ช้อนชา วิธีทำ
นำละมุดมาล้างให้สะอาด ปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นพอประมาณ แล้วใส่เครื่องปั่น เติมน้ำต้มสุก เติมน้ำเชื่อม เติมเกลือป่นเล็กน้อย ปั่นให้ละเอียด ชิมตามใจชอบ ละมุดส่วนมากจะมีรสหวาน ใส่น้ำเชื่อมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- ผลสุก มีน้ำตาลสูง วิตามินซี วิตามินเอ คัลเซียม ฟอสฟอรัส รับประทานเป็นผลไม้ ทำไวน์
- เปลือก ลำต้นต้มแก้บิด
- ยาง เป็นยาขับพยาธิอย่างดี
- เมล็ด เป็นยาบำรุง
ลำไย เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง กิ่งก้านแตกเป็นทรงพุ่มสวยงาม ใบเป็นใบประกอบ ดอกช่อออกที่ปลายยอด ผลกลมใหญ่กว่าไข่นกกระทา เปลือกผลบางสีน้ำตาล เนื้อในขาวหรือสีชมพู มีเมล็ดกลม สีน้ำตาลแกมดำ ผลละ 1 เมล็ด เป็นพืชตระกูลเดียวกับลิ้นจี่ และเงาะ
ส่วนผสม
ลำไยสดแกะเนื้อ 1 ถ้วยตวง น้ำต้มสุก 1 1/2 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/4 ถ้วยตวง วิธีทำ
เลือกลำไยสด ปอกเปลือกแกะเอาเฉพาะเนื้อ ใส่เครื่องปั่น เติมน้ำสุก เติมน้ำเชื่อม ชิมดูตามใจชอบ ปั่นให้ละเอียด น้ำลำไยสีขาว เติมน้ำแข็ง จะได้น้ำลำไยหวานหอมน่ารับประทาน
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- ลำไย มีวิตามินซี คัลเซียม ฟอสฟอรัส โปรตีน น้ำตาล
- เนื้อลำไย เป็นยาบำรุงประสาทอ่อนๆ นอนไม่หลับ
- เมล็ด เป็นยาห้ามเลือด เนื่องจากมีรสฝาด
- รากสด ต้มใส่น้ำตาลกรวดดื่มแก้ช้ำใน
- ลำไยตากแห้ง เป็นการถนอมอาหาร และนำมาทำน้ำลำไยได้โดยวิธีต้มใส่น้ำตาล
จาก เป็นพืชชายเลนชนิดหนึ่ง มีเหง้าใหญ่แข็งแรงอยู่ใต้ดิน ใบ เป็นใบประกอบ ใบงอกจากลำต้นใต้ดิน ก้านใบสีน้ำตาลขนาดใหญ่ ออกดอกเป็นช่อ ดอกตัวผู้และดอกตัวเมียอยู่คนละดอกกัน ช่อดอกตัวผู้เป็นแท่งยาวเกือบ 1 เมตร ผล จะเกาะกันเป็นกระจุกเบียดกันแน่น อยู่รอบแกนกลาง ผลเป็นสีน้ำตาลแดง เมื่อยังอ่อนเนื้อในมีสีขาว เมื่อสุกตรงกลางมีเนื้อนิ่มสีขาวใส มีรสหวาน เป็นพืชตระกูลหมาก มะพร้าว
ส่วนผสม
ลูกจาก 1 ถ้วยตวง น้ำต้มสุก 1 1/2 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง วิธีทำ
เลือกผลลูกจากที่เนื้ออ่อนๆ ใส่เครื่องปั่น เติมน้ำสุก แล้วเติมน้ำเชื่อม ปั่นให้เข้ากัน ชิมตามชอบ จะได้น้ำลูกจากสีขาว รสหอมหวาน ดื่มชื่นใจ
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- ใบ ใบมีรสฝาด ต้มดื่มแก้ท้องร่วง ใช้มุงหลังคา
- ขี้เถ้าจากรากและใบ ใช้ใส่แก้ปวดฟัน
- ผลอ่อน รับประทานเป็นผักเหนาะ
- เนื้อในผลแก่ รับประทานสด เชื่อม
- ก้านช่อดอก ผลิตน้ำตาลได้
ตาล เป็นไม้ยืนต้นที่มีอายุยืน ลำต้นใหญ่และกลมสูงมาก ใบเดี่ยว แผ่นใบกลมโต ใบและผลออกที่ปลายยอด ดอกตัวผู้เป็นแท่งยาวกลม ดอกตัวเมียเป็นช่อดอกย่อยเหมือนมะพร้าว ผลออกเป็นทะลาย หนึ่งทะลายมีประมาณ 5-10 ผล ผลอ่อนผิวสีเหลืองอมเขียว ผลแก่มีสีน้ำตาลดำ ผลสุกมีกลิ่นหอมและจะร่วงจากต้นเอง ผลอ่อนใช้แกงเลียง ผลแก่ใช้เชื่อมหรือทำน้ำลูกตาล ผลสุกใช้ทำขนมตาล
ส่วนผสม
เนื้อลูกตาล 1 ถ้วยตวง น้ำต้มสุก 1 1/2 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง วิธีทำ
นำเนื้อผลตาลอ่อน หั่นเป็นชิ้น ใส่เครื่องปั่น เติมน้ำสุก เติมน้ำเชื่อม ปั่นให้ละเอียด จะได้น้ำลูกตาลสีขาว มีกลิ่นหอมหวาน ใส่น้ำแข็ง หรือนำเข้าแช่เย็น
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- ผลตาลอ่อน มีฟอสฟอรัส คัลเซียม วิตามินซี ใช้ทำแกงเลียง
- งวงตาล ใช้ต้มรักษาตานขโมยในเด็ก
- ราก ต้มแก้อาการร้อนใน กระหายน้ำ
- ผลแก่ เชื่อม ทำน้ำลูกตาล
- ผลสุก ทำขนมตาล
บัว เป็นไม้น้ำ มีเหง้าใต้ดิน ลักษณะเป็นปล้องใหญ่และยาว มีสีขาวงาช้าง ถ้าตัดตามขวางจะเป็นเป็นรูกลม ก้านใบต่อตรงกลางใบ ก้านมีหนาม มีก้านดอกยาว ชูขึ้นเหนือน้ำ เมื่อแก่ก็จะกลายเป็นกรวยหรือฝักบัว มีเมล็ดบัวฝังอยู่ในฝักบัว ส่วนราก เมื่อแก่จะนำมาต้มหรือทำยา
ส่วนผสม
รากบัว 5-10 ราก น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง น้ำ 2 ถ้วยตวง วิธีทำ
นำรากบัวมาล้างให้สะอาด ฝานเป็นชิ้นบางๆ นำไปต้ม เคี่ยวจนน้ำเป็นสีชมพู เติมน้ำตาลทราย กรองเอากากออก รับประทานกับน้ำแข็ง
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- ใบ ใช้ต้มสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคควมดันโลหิตสูง
- เกสร เป็นยาบำรุงหัวใจ บำรุงประสาท
- ดอกสด ต้มแก้อ่อนเพลีย
- เมล็ดบัว บำรุงกำลัง บำรุงครรภ์
- รากบัว ต้มแก้ร้อนใน
- ดีบัว ช่วยขยายหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ
- ทั้งต้น ต้มแก้โรคพิษสุราเรื้อรัง
ว่านหางจระเข้ เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว มีใบหนา เรียงซ้อนกัน โคนใบกว้าง ปลายใบเรียว ริมใบมีหนาม ใบสีเขียวอ่อน มีกระ ใบแก่มีสีเข้ม ใบมียางสีเหลือง มีวุ้นและน้ำเมือก
ส่วนผสม
ว่านหางจระเข้ 1 ถ้วยตวง น้ำต้มสุก 1 1/2 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง วิธีทำ
เลือกใบว่านหางจระเข้ที่มีใบหนาและโตเต็มที่ ปอกเปลือก นำมาล้างให้สะอาด ให้หมดเมือกสีเหลือง หั่นเป็นชิ้นบางๆ ปั่นให้เข้ากัน กรองด้วยผ้าขาวบาง เติมน้ำเชื่อม คนให้เข้ากัน รับประทานกับน้ำแข็ง
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- ยางสีเหลือง ใช้ทำยาดำ เป็นยาถ่าย
- วุ้นและน้ำเมือก ใช้รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ใช้สมานแผล เป็นยารักษาโรคริดสีดวงทวาร
- ก้านใบ ใช้ทำน้ำดื่ม
อ้อย มีลำต้นกลม เป็นปล้องคล้ายต้นอ้อ เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ใบสากและคาย ช่อดอกใบเป็นพู่ เปลือกหุ้มแข็ง ใช้ลำต้นรับประทาน ใช้เครื่องหีบน้ำอ้อยทำน้ำหวานรับประทาน และทำน้ำตาล
ส่วนผสม
อ้อย 4-5 ท่อน เครื่องหีบอ้อย ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- น้ำเชื่อม ใช้ทำสารกันบูด และฆ่าเชื้อบัคเตรี
- คุณประโยชน์อื่นๆ ทำอ้อยควั่น เป็นน้ำดื่มแก้กระหาย ทำน้ำตาล รองหม้อต้มปลา เพื่อทำปลาต้มเค็ม
ทับทิม เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีกิ่งก้านสาขามาก ใบมีลักษณะเล็กเรียว ดอกมีสีส้มแดง ออกผลกลม ผลดิบเนื้อในจะมีรสฝาดออกเปรี้ยว เมื่อสุกมีรสหวาน
ส่วนผสม
เนื้อทับทิมสุก (ทั้งเมล็ด) 1 ผล น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง น้ำตาล 1/2 ถ้วยตวง วิธีทำ
แกะทับทิม เอาเฉพาะเนื้อ โดยนำเมล็ดทับทิมที่สุกไปโขลกเพื่อแยกเมล็ดกับเนื้อออก เสร็จแล้วใส่ลงในน้ำที่เตรียมไว้ แล้วกรองแยกเอากากที่เป็นเมล็ดออก จากนั้นนำน้ำที่ได้ไปตั้งไฟ พอเดือดใส่น้ำตาล พอน้ำตาลละลายแล้วยกลง ตั้งพักไว้ให้เย็น รับประทานกับน้ำแข็งหรือนำเข้าตู้เย็น จะได้น้ำทับทิมรสอร่อย
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- ผลทับทิม มีน้ำตาลหลายชนิด
- เปลือกหุ้มผล แก้บิด ลำไส้อักเสบ ท้องร่วง ต่อมทอลซิลอักเสบ และแผลร้อนใน
- เปลือกหุ้มราก ขับพยาธิ นิ่ว
- ใบอ่อน แก้ตาอักเสบ
- ดอกแห้ง คั่ว รักษาโรคหูน้ำหนวก
สับปะรด เป็นไม้ล้มลุกชนิดหนึ่ง มีหลายพันธุ์ มีทั้งที่มีรสหวานฉ่ำ รสเปรี้ยวและอมเปรี้ยวอมหวาน ใบมีลักษณะเป็นกาบยาว มีใยที่ใช้ทำสิ่งทอได้ ขอบใบมีหนาม ผลมีลักษณะเป็นหัว มีตาสับปะรดอยู่โดยรอบ เมื่อสุกมีสีเหลือง มีรสหวานฉ่ำชื่นใจ
ส่วนผสม
สับปะรดหั่นเป็นชิ้น 1 ถ้วยตวง น้ำสุก 1 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง เกลือ 1/4 ช้อนชา วิธีทำ
นำสับปะรดมาปอกเปลือก ใช้มีดเฉือนตาออกเป็นเส้นทแยงตามแนวของตาสับปะรด แล้วหั่นแกนกลางออก หั่นเป็นชิ้นๆ ใส่เครื่องปั่น เติมน้ำสุก ปั่นให้ละเอียด นำมากรองแยกเอากากออก เติมน้ำเชื่อมและเกลือลงไปพอหวาน จะได้น้ำสับปะรดสีเหลือง เมื่อจะดื่มเติมน้ำแข็งลงไป ดับกระหาย คลายร้อน
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- สับปะรด มีวิตามินซี คัลเซียม ฟอสฟอรัส ดื่มดับกระหาย
- น้ำสับปะรด หมักกับเนื้อสัตว์เวลาทำอาหาร จะทำให้เนื้อเปื่อยเร็ว
- สับปะรดสุก นำมารับประทานสดๆ หรือจะนำไปทำเป็นแกงสับปะรด สับปะรดกวน ทำแยม หรือแช่อิ่มก็อร่อย
บัว เป็นพืชน้ำ มีใบ ดอก โผล่ออกมาเหนือน้ำ ดอก เมื่อแก่เต็มที่จะกลายเป็นฝัก ฝักบัว เมื่อแก่จะมีเม็ดข้างใน สามารถรับประทานเป็นผลไม้ หรือนำไปทำเป็นขนม
ส่วนผสม
วิธีทำ
เม็ดบัว (แกะเปลือก) 1 ถ้วยตวง น้ำตาล 1/2 ถ้วยตวง น้ำสุก 2 ถ้วยตวง นำเม็ดบัว มาล้างให้สะอาด ใส่หม้อ เติมน้ำให้ท่วม ต้มให้สุก ใส่น้ำตาล คนให้น้ำตาลละลาย ตั้งพักให้เย็น รับประทานกับน้ำแข็ง
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- เม็ดบัวสด มีสารอาหารจำพวกแป้ง โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต และเกลือแร่
- มีสรรพคุณบำรุงประสาท บำรุงไต รักษาอาการท้องร่วง โรคบิด และประจำเดือนมามากเกินไป
ลิ้นจี่ เป็นไม้ยืนต้น มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน แต่ปัจจุบัน เราสามารถปลูกได้ทางภาคเหนือของประเทศไทย เมื่อสุกจะมีเปลือกสีแดง ผิวขรุขระ เนื้อรับประทานเป็นผลไม้
ส่วนผสม
วิธีทำ
เนื้อลิ้นจี่ 1 ถ้วยตวง น้ำสุก 2 ถ้วยตวง น้ำตาล 1/2 ถ้วยตวง นำลิ้นจี่ มาปอกเปลือก แกะเอาเฉพาะเนื้อ นำน้ำใส่หม้อ ตั้งไฟให้เดือด ใส่น้ำตาลลงไป พอเดือดใส่เนื้อลิ้นจี่ลงไป ตั้งพักไว้ให้เย็น รับประทานกับน้ำแข็ง หรือนำเข้าแช่ตู้เย็นไว้รับประทาน
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- ลิ้นจี่ มี น้ำตาลซูโครส น้ำตาลกลูโคส โปรตีน ไขมัน วิตามินซี และกรดซิตริก
- เนื้อลิ้นจี่ มีฤทธิ์ช่วยย่อย บำรุงม้าม บำรุงประสาท แก้กระหาย
- เมล็ด ใช้บรรเทาอาการปวด รักษาโรคไส้เลื่อน
ส้มโอ เป็นไม้ยืนต้น เป็นผลไม้ที่มีเปลือกหนา เก็บได้นานกว่าส้มธรรมดา เนื้อส้มโอจะมีวิตามินซีสูง เป็นผลไม้ที่มีรสหวานอมเปรี้ยว รับประทานแล้วชุ่มคอชื่นใจ ส้มโอเป็นพืชที่ออกผลได้ตลอดทั้งปี เนื้อ เปลือก และเมล็ดของผลส้มโอ ล้วนใช้ทำยาได้
ส่วนผสม
เนื้อส้มโอ 4 กลีบ น้ำสุก 1 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง วิธีทำ
นำส้มโอ มาปอกเปลือก แกะเมล็ดออกใส่เครื่องปั่น เติมน้ำและน้ำเชื่อม ปั่นให้ละเอียด รับประทานกับน้ำแข็ง หรือนำเข้าแช่ตู้เย็น หรือนำเนื้อส้มโอมาปั่นกับน้ำ แล้วกรองแยกกากออก ผสมน้ำเชื่อม รับประทานกับน้ำแข็ง หรือนำเข้าแช่ตู้เย็น
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- เนื้อส้มโอ มีสรรพคุณช่วยละลายเสมหะ แก้ไอ บำรุงกระเพาะ ช่วยย่อย ลดอาการปอดบวม
- ถ้าอาหารไม่ย่อย ท้องอืดท้องเฟ้อ ให้รับประทานทั้งกลีบประมาณ 3-4 กลีบ จะช่วยบรรเทาอาการท้องอืด
องุ่น เป็นไม้เถา ชอบเลื้อยตามร้าน ผลออกเป็นช่อ รับประทานเป็นผลไม้ มีรสหวาน เปรี้ยว เป็นผลไม้บำรุงร่างกาย นอกจากมีคุณค่าทางอาหารแล้ว ยังมีสรรพคุณทางยา
ส่วนผสม
องุ่น 1/2 กิโลกรัม น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง วิธีทำ
นำองุ่นมาล้างให้สะอาด แล้วนำมาคั้น กรองเอาเฉพาะน้ำ แยกเอากากทิ้ง ใส่น้ำเชื่อม คนให้เข้ากัน รับประทานกับน้ำแข็ง หรือนำไปแช่เย็น
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- องุ่น มีน้ำตาลซูโครส และกลูโคส กรดซิตริก วิตามินซี เหล็ก และคัลเซียม
- องุ่น มีสรรพคุณ บำรุงสมอง บำรุงหัวใจ ขับปัสสาวะ แก้กระหาย บำรุงกำลัง สำหรับคนที่ผอมแห้งแรงน้อย ถ้ารับประทานเป็นประจำ ทำให้ร่างกายแข็งแรง
แอปเปิล เป็นผลไม้เมืองหนาว มีชนิดเปลือกผลสีแดง เปลือกผลสีเขียว แอปเปิลมีเกลือแร่และวิตามิน ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด
ส่วนผสม
แอปเปิล 2 ลูก น้ำสุก 1 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง วิธีทำ
นำแอปเปิลมาปอกเปลือก เอาแกนกลางออก นำไปใส่เครื่องปั่น ตามด้วยน้ำสุก และน้ำเชื่อม ปั่นให้เข้ากัน รับประทานกับน้ำแข็ง หรือจะนำเข้าแช่ตู้เย็นเก็บไว้รับประทาน ถ้าไม่ต้องการเส้นใยให้เอาแอปเปิลปั่นกับน้ำ แล้วกรองเอากากออก ผสมกับน้ำเชื่อมรับประทาน
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- แอปเปิล เป็นผลไม้ที่มี วิตามินซีมาก มีสรรพคุณเป็นยาระบาย
- แอปเปิล มีสารกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ จึงทำให้การขับถ่ายดีขึ้น ปรับสมดุลการย่อยของอาหาร แก้โรคท้องร่วง ลดกรดในกระเพาะ บำรุงกระเพาะ ช่วยย่อย บำรุงกำลัง ขับร้อน และละลายเสมหะ
ระกำ เป็นไม้พุ่มชนิดหนึ่ง ลำต้นเป็นกอขนาดใหญ่ ก้านใบมีลักษณะเป็นหนามแข็ง ผลมีสีส้มเป็นกระปุก เปลือกระกำมีหนามอยู่โดยรอบ เวลารับประทานแกะเปลือกออก เนื้อระกำมีรสเปรี้ยวหวานเล็กน้อย
ส่วนผสม
ระกำ 5-6 ลูก น้ำเปล่า 1 1/2 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง วิธีทำ
ปอกเปลือกระกำออกให้หมด เติมน้ำใส่หม้อ ตั้งไฟ ใส่ระกำลงไปต้มจนเนื้อระกำเปื่อยนิ่ม แล้วเอาเม็ดออก จากนั้น นำเนื้อระกำไปต้มอีกครั้ง เติมน้ำเชื่อม ต้มต่อสักพัก จะได้น้ำระกำ รสหวานอมเปรี้ยว เวลาดื่มเติมน้ำแข็งลงไปช่วยดับกระหายคลายร้อน
ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร
- ระกำ มีวิตามินซี ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
- ผล ช่วยขับเสมหะและลดอาการไอ
- เนื้อระกำ ขูดเนื้อเอาเม็ดออก นำมาทำน้ำพริกระกำ ก็อร่อย
จาก.....หนังสือ "น้ำดื่มสมุนไพร จาก พืชและผลไม้" โดย ดร.ธารธรรมแก้ว เชื้อเมือง สำนักพิมพ์ "กำแก้ว"