มะละกอ ผลไม้ยืนต้น ปลูกในระยะเวลาอันสั้นก็ผลิดอกออกผลให้รับประทานกัน มะละกอเมื่อดิบรับประทานเป็นผัก แต่เมื่อสุกก็กินเป็นผลไม้ได้อร่อย เนื้อจะเปลี่ยนจากสีเขียวกรอบเป็นสีส้มแดง สารสีส้มนี้มีชื่อว่า แคโรทีนอยด์ (carotenoid) เนื้อมะละกอสุกมีรสหวาน เนื้อนุ่มอร่อย มะละกอซื้อหารับประทานได้ตลอดทั้งปี สนนราคาถูก มะละกอพันธุ์ที่นิยมรับประทานเป็นผลไม้ก็มี มะละกอฮาวาย เป็นมะละกอลูกกลมเล็ก มะละกอโกโก้ และมะละกอแขกดำ ซึ่งเป็นพันธุ์ที่นิยมรับประทานกันมากที่สุด เพราะเนื้อมีสีแดง รสหวาน เนื้อไม่เละ
มะละกอ นอกจากรับประทานเป็นผลไม้ได้อร่อยแล้ว ยังนำไปทำเป็นน้ำมะละกอ หรือน้ำมะละกอผสมกับน้ำผลไม้ชนิดอื่นๆก็ได้รสดียิ่ง น้ำมะละกอใช้ดื่มหลังอาหารจะช่วยย่อยอาหาร เพราะในเนื้อมะละกอนี้จะมีเอนไซม์ช่วยย่อยสารโปรตีนที่ชื่อว่า "ปาเปอีน" ไม่เพียงเท่านี้ น้ำมะละกอยังช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยให้การทำงานของลำไส้ดีขึ้น ทำความสะอาดไต ช่วยให้เลือดแข็งตัว และยังเป็นยาระบายอ่อนๆอย่างดีอีกด้วย
มะละกอสุกชิ้นขนาดกลาง อุดมไปด้วยคุณค่าอาหารที่มีประโยชน์ คือ แคลเซียม 61 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 49 มิลลิกรัม เหล็ก 0.9 มิลลิกรัม โซเดียม 9 มิลลิกรัม โปรแตสเซียม 711 มิลลิกรัม วิตามินเอ 5,320 I.U. วิตามินซี 170 มิลลิกรัม และแมกนีเซียม 31 มิลลิกรัม
การเลือกซื้อมะละกอเพื่อนำมาทำเป็นเครื่องดื่ม ควรจะเลือกมะละกอที่สุกกำลังดี เนื้อไม่แข็ง หรือเละจนเกินไป มีเนื้อสีแดง เนื้อเนียน รสหวาน ถ้าเป็นพันธุ์แขกดำได้ยิ่งดี เพราะเครื่องดื่มที่ออกมาจะมีสีแดงสวย ก่อนทำน้ำมะละกอต้องล้างน้ำให้สะอาด ผ่าครึ่ง ใช้ช้อนตักเมล็ดออก จากนั้นก็ฝานเอาเปลือกออก หั่นเป็นชิ้น แล้วจึงนำไปปั่นทำน้ำมะละกอ
น้ำมะละกอวิธีทำ มะละกอสุกหั่นเอาแต่เนื้อ 1/2 ถ้วย น้ำเย็นจัด 1 ถ้วย อบเชยป่น 1/8 ช้อนชา เกลือป่น 1/2 ช้อนชา น้ำมะนาว 2 ช้อนชา ปั่นมะละกอกับน้ำเย็นจัด เกลือ น้ำมะนาวเข้าด้วยกัน รินใส่แก้ว โรยด้วยอบเชยปั่น แต่ด้วยใบสะระแหน่ ดื่มเย็นๆทันทีจะอร่อย
น้ำมะละกอผสมน้ำสับปะรดวิธีทำ น้ำมะละกอตามสูตร 1/2 ถ้วย น้ำสับปะรด 1/2 ถ้วย เกลือป่น 1/8 ช้อนชา น้ำมะนาว 1 ช้อนชา ปั่นส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน รินใส่แก้ว แช่จนเย็นจัด แต่งด้วยสับปะรดหั่นเป็นชิ้น มะนาวหั่นแว่น และยอดสะระแหน่