ทองหลาง



          "ทองหลาง"  เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ซึ่งถือว่าเป็นไม้มงคล  นิยมปลูกตามรั้ว ริมบ้าน ริมคูน้ำ หรือร่องน้ำ   ทองหลางใบกว้าง กินเฉพาะใบอ่อน มีรสมันอร่อย ดังนั้น จานอาหารโบราณประเภทข้าวมันส้มตำ  ไส้กรอกปลาแนม  เมี่ยงคำ  เมี่ยงชนิดอื่นในสมัยก่อนจะขาดใบทองหลางไว้ห่อเครื่องเครากินไม่ได้เลย เพราะจะทำให้ไม่ได้รสชาติดั้งเดิม  และยังนำมาชุบแป้งทอดกินกับน้ำพริกส้มมะขาม  ขนมจีนน้ำพริก

          ความที่ทองหลางชอบน้ำ ปลูกเป็นไร่เป็นดงไม่ได้ ทำให้ใบชะพลูที่มีใบกว้างเหมือนกัน มีกลิ่นและรสฉุนเฉพาะตัว ปลูกง่าย หาซื้อได้ทั่วไป พัฒนาเข้ามาแทนที่ใบทองหลางในอาหารจานโบราณดังกล่าว นอกจากนี้ใบทองหลางยังนำไปรองก้นห่อหมกได้รสอร่อยอีกด้วย

          ผักโบราณแต่กาลก่อนอย่างทองหลางเป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างสำคัญ  ใบทองหลางปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงาน 52 แคลอรี  มีโปรตีน 6.4 กรัม  แคลเซียม 56 มิลลิกรัม  ฟอสฟอรัส 101 มิลลิกรัม  และวิตามินเอสูงถึง 7,875 I.U. ซึ่งมากกว่าฟักทองถึง 3 เท่า

          ทองหลางมีหลายชนิด ทั้งทองหลางใบมน  ทองหลางหนาม  ทองหลางลาย  ทองหลางเหล่านี้มีใบกลมมน  ชอบขึ้นตามที่ดอน   และทองหลางน้ำหรือเรียกอีกชื่อว่า "ทองโหลง" ขึ้นอยู่ตามริมน้ำ ซึ่งชาวสวนภาคกลางรุ่นเก่านิยมปลูก เพราะมีประโยชน์มากกว่าทองหลางชนิดอื่นๆ ใบและยอดอ่อนมีรสมัน รับประทานได้ทั้งสดและสุก แถมยังให้ร่มเงาปิดบังแสงแดดอันแรงกล้าให้แก่ไม้ผลของชาวสวน  รากมีปมที่สามารถผลิตและเก็บกักปุ๋ยได้ ต้นกับใบก็เป็นปุ๋ยชั้นดีอีกด้วย ดังนั้นเมื่อพูดถึงทองหลางจึงหมายถึงทองหลางน้ำ

          ขนาดต้นของทองหลางน้ำสูงเต็มที่ก็ประมาณ 15-20 เมตร เป็นพืชตระกูลถั่วเช่นเดียวกับขี้เหล็ก  แค   ใบรูปไข่  ปลายใบแหลม  ผิวใบมีสีนวลขาวเคลือบอยู่  ดอกมีสีแสดสวย  ชอบขึ้นตามชายน้ำ ริมน้ำ   ชาวสวนรุ่นเก่านิยมปลูกทองหลางน้ำไว้ในสวนทุเรียน สวนมังคุด เพื่อเป็นไม้พี่เลี้ยงให้ร่มเงาและเป็นปุ๋ยชั้นดี ช่วยให้ผลไม้มีรสชาติอร่อย ไม่จืดชืด  ต้นยังใช้เป็นค้างของต้นพลูอีกด้วย เรียกว่า "พลูค้างทองหลาง"  ใบพลูจะมีสีเขียวเข้ม มีรสเผ็ด

          ปัจจุบันทองหลางหาซื้อยากพอควร  จะมีขายเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ที่ตลาดเทเวศร์  ท่าเรือท่าช้าง จะมีป้าหรือยายชาวสวนนนทบุรีเก็บมาขาย และที่ตลาดนนทบุรี เป็นต้น  ขายกำละ 5 -10 บาท แล้วแต่ว่าเป็นกำเล็กหรือกำใหญ่  ลองซื้อมาทำอาหารรับประทานกันเพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักและรับประทานผักโบราณที่มีรสอร่อยและมีประโยชน์มากมาย

 

ปลาแนม

เครื่องปรุง

ปลาช่อนย่างแกะเอาแต่เนื้อ 1      ถ้วย
มะพร้าวขูด 100      กรัม
เนื้อหมูสามชั้น 100      กรัม
หนังหมู 100      กรัม
ส้มซ่า 1      ลูก
มะนาว 2      ลูก
น้ำตาลทราย 1      ถ้วย
ข่าอ่อนโขลกคั้นเอาแต่น้ำ 1      ช้อนโต๊ะ
ข้าวคั่วป่น 2-2 1/2      ถ้วย
ถั่วลิสงคั่วโขลกป่นหยาบ 1/2      ถ้วย
หอมแดงซอย 1/2      ถ้วย
กระเทียมดองซอย 4      หัว
เกลือป่น 1 1/2-2      ช้อนโต๊ะ
ใบทองหลาง      

วิธีทำ

1.  ต้มหนังหมูพอสุก แล่เอามันออกให้หมด หั่นฝอยเป็นเส้นยาว ขยำกับเกลือป่น น้ำมะนาว ทิ้งไว้สักครู่ ล้างแล้วลวกน้ำร้อนอีกครั้ง ผึ่งไว้  หั่นเนื้อหมูเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก
2.  คั้นมะพร้าวให้ได้หัวกะทิ 1/4 ถ้วย
3.  ฝานส้มซ่า เอาผิวบางๆ หั่นฝอย  ส่วนผลให้คั้นน้ำไว้ และคั้นน้ำมะนาวให้ได้ 4 ช้อนโต๊ะ
4.  เคี่ยวหัวกะทิกับน้ำส้มซ่า น้ำข่า น้ำมะนาว เกลือ น้ำตาล พอเดือดยกลง ทิ้งให้เย็น
5.  ยีเนื้อปลาให้ฟู โดยใช้มือทั้งสองข้าถูไปมาให้ฟู ค่อยๆ ใส่น้ำปรุงรสที่เคี่ยวทีละน้อยจนหมด
6.  ใส่ข้าวคั่ว ถั่วลิสง คลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่เนื้อหมู หนังหมู คนให้ทั่ว โรยหน้าด้วยหอมแดง กระเทียมดอง ผิวส้มซ่า แต่งด้วยพริกชี้ฟ้าแดง เหลืองหั่นฝอย รับประทานกับใบทองหลาง